การรถไฟฯ แจงรถไฟมือสองจากญี่ปุ่น ไม่ใช่เศษเหล็ก
เช้าข่าว 7 สี - รถไฟมือสองจากญี่ปุ่น ที่ประเทศไทย ได้รับบริจาคมาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ตอนนี้ปรับปรุงสภาพเสร็จเรียบร้อย สวยงาม คงอัตลักษณ์รถไฟญี่ปุ่นไว้ด้วย ผู้สื่อข่าวได้ร่วมทดลองใช้บริการ ฝากบอกคุณผู้ชมมาด้วยว่า แหม เข้าไปภายในนี่ สัมผัสกลิ่นอายของญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ถือเป็นขบวนรถที่มีความพิเศษเฉพาะตัว
นี่แหละ โฉมหน้าของ รถไฟ KIHA 183 ภายนอกแม้จะถูกปรับปรุงสีมาแล้ว แต่เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ยังคงเน้นสีขาว-ม่วง-เขียวอ่อน และน้ำตาล ซึ่งเป็นสีเดิม เพื่อคงความเป็นญี่ปุ่น ให้ผู้ที่ชื่นชอบรถไฟญี่ปุ่นได้ร่วมสัมผัสกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริง คุณอนันตชัย วัชรเสถียร ผู้สื่อข่าวป้ายแดงของเรา ได้ร่วมทดสอบการเดินรถ จากกรุงเทพฯ ไปฉะเชิงเทรา เค้าบอกปกติเค้าก็ชื่นชอบรถไฟอยู่แล้ว พอได้ร่วมโดยสาร พี่ KIHA183 บอกได้เลยว่า การเดินรถนุ่มมาก นิ่งกว่ารถไฟขบวนอื่น ๆ ส่วนเบาะที่นั่งในขบวนรถ ก็นุ่มมากเช่นกัน ที่บอกว่ายังคงกลิ่นอายแดนซากุระเพราะภายในตัวรถ พวกป้ายตัวอักษรต่าง ๆ ยังมีภาษาญี่ปุ่นติดอยู่ แต่ก็มีภาษาไทย และภาษาอังกฤษติดเพิ่มไปด้วย โดยเฉพาะจุดสำคัญ อาทิ ภายในห้องน้ำ และปุ่มฉุกเฉินต่าง ๆ
ส่วนที่เราเรียกว่า พี่ KIHA 183 เพราะรถไฟคันนี้มีอายุการใช้งานที่เมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น มานานถึง 40 ปี และญี่ปุ่นก็บริจาคให้ไทยฟรี ๆ เสียค่าใช้จ่ายเพียงค่าขนส่ง และค่าปรับปรุงสภาพ เริ่มต้นที่ คันละ 200,000 บาท คุณผู้ชมอาจสงสัยทำไมถึงใช้ลักษณะนามว่าคัน ไม่เหมือนกับขบวนรถทั่ว ๆ ไป สาเหตุคือ พี่ KIHA 183 เขามีลักษณะเฉพาะของเขา เฉพาะคันตัวเอง หรือเรียกง่าย ๆ จะไม่มีการเอาหัวรถจักร หรือ ขบวนรถอื่นมาพ่วง อย่างที่เราใช้งานกันอยู่
ปีนี้การใช้งานก็เข้าสู่ปีที่ 41 ซึ่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ย้ำ ญี่ปุ่นดูแลสภาพมาเป็นอย่างดี ประเทศไทยจะสามารถใช้งานต่อได้ยาวนานถึง 50 ปีเลยทีเดียว ยืนยันว่า ไม่ใช่เศษเหล็ก ตามที่กระแสโซเชียลว่ากัน
อย่างที่พนักงานขับรถไฟ บอกที่นั่งคนขับรถไฟคันนี้จะสูงกว่าปกติ เพราะเดิมที่เราบอก รถไฟคันนี้เขาใช้งานที่ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีหิมะมาก ที่นั่งคนขับจึงถูกปรับให้สูงขึ้น เพื่อทัศนวิสัยที่ดีในการขับเคลื่อน จะเปิดให้บริการในเส้นทางท่องเที่ยวที่ระยะทางไม่เกิน 400 กิโลเมตร โดยสามารถใช้ความเร็วได้อยู่ที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากขีดความสามารถของรถวิ่งได้ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนใช้บริการได้ภายในเดือนหน้า