สุดช้ำ แม่อายุ 83 ปี ถูกลูกในไส้ฟ้องร้องดำเนินคดี จ.นนทบุรี
เจาะประเด็นข่าว 7HD - หัวอกแม่ช้ำ คุณยายอายุ 83 ปี ถูกลูกชายในไส้ฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ แจ้งความเท็จ แม้กระทั่งแม่เข้าผ่าตัดมะเร็งเต้านม ลูกคนนี้ก็ไม่ยอมใช้สิทธิข้าราชการเซ็นเบิกค่ารักษาพยาบาลให้ ล่าสุด ลูกชายได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
คุณยายท่านนี้อาศัยอยู่ย่านบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เล่าถึงที่มาให้ฟังว่า คุณยายมีลูก 4 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 3 คน โดยยึดอาชีพทำสวนหาเลี้ยงลูก และพยายามเก็บหอมรอมริบจนซื้อที่ดินเก็บไว้ได้หลายแปลงทั้งที่ จังหวัดกาญจนบุรี และนครปฐม รวมถึงในย่านบางกรวยที่อาศัยอยู่ปัจจุบัน
ต่อมาสามีได้แอบแบ่งที่ดินย่านบางกรวยให้กับลูก ๆ โดยที่ตนไม่เคยทราบเรื่อง โดยแบ่งให้ลูกชาย และลูกสาวอีก 2 คน ๆ ละ 161 ตารางวา แต่ไม่ยอมแบ่งให้ลูกสาวคนโตด้วย ต่อมาตนทราบเรื่องจึงไปสอบถามที่สำนักงานที่ดินว่าเหตุใดจึงมีการแบ่งทรัพย์สินให้ลูกได้ ทั้งที่ตนซึ่งเป็นคู่สมรสและเป็นแม่ไม่ได้รับรู้เลย จึงพบว่ามีคนปลอมลายเซ็นของตน ตอนนั้นรู้สึกโกรธจึงไปแจ้งความดำเนินคดี แต่แล้วก็เกิดเป็นห่วงว่าลูกกับสามีจะต้องติดคุกหมดอนาคต จึงไปถอนแจ้งความ
หลังสามีเสียชีวิต เพื่อความยุติธรรม คุณยายจึงทำเรื่องยกที่ดินเนื้อที่ 161 ตารางวา ที่ยังเหลืออยู่ 1 แปลงเป็นชื่อของสามี ให้กับลูกสาวคนโต ซึ่งผู้เป็นพ่อไม่ได้แบ่งที่ดินให้ก่อนหน้านี้ แต่แล้วก็เหมือนถูกสายฟ้าฟาด เมื่อลูกชายคนโต อายุ 61 ปี ได้ยื่นศาลฟ้องแม่บังเกิดเกล้า ในข้อหายักยอกทรัพย์ แจ้งความเท็จ เพราะนำที่ดินไปยกให้ลูกสาวคนโตโดยไม่บอกกล่าว แต่ศาลได้ยกฟ้องในคดีอาญา เนื่องจากตามกฎหมายลูกที่สืบสันดานไม่สามารถฟ้องบุพการีผู้ให้กำเนิดในคดีอาญาได้ แต่ลูกชายยังไม่หยุดแค่นั้น ยังคงเดินหน้าฟ้องร้องในคดีแพ่งต่อ ทำให้คุณยายถึงกับน้ำตาตก เสียใจทุกข์ใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ คิดไม่ถึงว่าลูกในไส้ที่ตนหาเลี้ยงและส่งเสียให้เรียนสูง ๆ มาด้วยความยากลำบาก จะตอบแทนพระคุณแม่แบบนี้ 10 ปีที่เฝ้ารอลูกสำนึกได้ แต่วันนี้กลับกลายเป็นหมายศาล
นอกจากนี้ เมื่อลูกสาวคนเล็กเสียชีวิตลง คุณยายในฐานะผู้เป็นแม่จะต้องได้ที่ดิน 161 ตารางวาคืน แต่ลูกชายซึ่งรับราชการและรู้กฎหมายดี ได้รีบนำโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวไปแจ้งกับสำนักงานที่ดินว่า ถ้ามีใครมาขอคัดสำเนาโฉนด ห้ามให้คัดเด็ดขาด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ชี้แจงว่าที่ดินแปลงนี้ต้องเป็นของคุณยายผู้เป็นแม่ตามกฎหมาย โดยคุณยายได้แจ้งเรื่องและทำตามขั้นตอนทุกอย่าง แต่ที่เจ็บช้ำน้ำใจกว่านั้นคือ ช่วงที่คุณยายป่วยมะเร็งเต้านม ต้องตัดทิ้งข้างหนึ่ง ลูกชายไม่ยอมมาเซ็นเบิกค่ารักษาพยาบาลให้ตามสิทธิของข้าราชการ ปล่อยให้แม่ต้องหาเงินมารักษาตัวเองโดยไม่เคยมาดูดำดูดีใด ๆ เลย สิ่งที่เป็นกังวลที่สุดตอนนี้ ก็คือเรื่องคดีแพ่งที่จะต้องไปขึ้นศาลแขวงนนทบุรี ในวันที่ 5 เมษายนนี้แล้ว เนื่องจากคุณยายแทบไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย จึงไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใครได้
เพื่อความเป็นธรรม ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามเรื่องนี้จากผู้เป็นลูกชาย ได้ชี้แจงว่า จริง ๆ แล้วตนไม่อยากจะฟ้องดำเนินคดีกับแม่ แต่แม่ได้ร่วมกับพี่สาวคนโตไปทำการคัดลอกสำเนาโฉนดที่ดินของน้องสาวคนเล็กที่เสียชีวิตไป แล้วขายที่ดินแปลงดังกล่าวไป ทั้งที่ตนถือโฉนดฉบับจริงอยู่ จะให้ตนรู้สึกอย่างไร ตนเป็นลูกชายไม่เคยหวังทรัพย์สินอะไร ที่ผ่านมาไม่เคยได้สมบัติอะไรจากแม่ มีแต่พี่สาวคนโตและหลานสาวได้ไป แม้ตนอยากไปกราบเท้าขอโทษ แม่ก็คงไม่รับตนเป็นลูก เรื่องที่ฟ้องร้องแม่ถึงแม้ตนเป็นฝ่ายถูก แต่สังคมก็คงต้องมองว่าตนผิด
ส่วนเรื่องที่ไม่ได้เซ็นเบิกค่ารักษาพยาบาลให้แม่นั้น ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่เป็นเรื่องของขั้นตอนที่ต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน แต่ระหว่างที่ยื่นเรื่องดำเนินการ พี่สาวก็ได้พาแม่ไปหาหัวหน้าของตนให้เร่งรัดทำเรื่องเบิกเงิน ทำให้ตนถูกตั้งกรรมการสอบ กระทั่งพบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคาดเคลื่อนตนจึงพ้นข้อครหา จึงอยากขอให้สังคมเห็นใจและเข้าใจตนด้วย