DSI รับคดี ดิไอคอนกรุ๊ป เป็นคดีพิเศษ
ประเด็นเด็ด 7 สี - ลุ้นกันอยู่ช่วงเช้า ดูเหมือนช่วงแรกมีเปอร์เซ็นต์ว่าจะไม่เข้าเงื่อนไข พ.ร.ก.แชร์ลูกโซ่ แต่สุดท้ายหลังประชุมร่วมกันระหว่างตำรวจ และ DSI ก็ได้ข้อสรุปว่า เข้าข่ายเป็น "คดีแชร์ลูกโซ่"
เหตุผลเป็นเพราะ DSI ได้เห็นสำนวนคดีที่เสร็จสมบูรณ์ไปกว่า 70% ประกอบกับผลการรวบรวมพยานหลักฐาน, แผนประทุษกรรม, ข้อมูลระบบหลังบ้านที่ ดีเอสไอ ไปตรวจยึดจากบริษัทจัดเก็บข้อมูล, เงินบัญชีการเงิน, รูปแบบการตลาด และการชำระภาษี
จึงค่อนข้างมั่นใจว่าเข้าเงื่อนไขบัญชีแนบท้ายที่ DSI มีอำนาจในการดำเนินการ กระบวนการทำคดีต่อจากนี้ ไม่ใช่ว่า DSI จะตัดอำนาจของตำรวจ แต่ยังจะทำงานร่วมกันต่อไป
อีกฟากหนึ่ง ทนายวิฑูรย์ ทนายความของ "บอสพอล" พูดถึงเรื่องการรับคดีนี้เป็นแชร์ลูกโซ่ ว่า ในมุมมองทนายไม่เข้าเงื่อนไข ไม่เช่นนั้นก็ต้องพิสูจน์สมาชิกประมาณ 100,000 คน จากที่มีอยู่กว่า 300,000 คน ให้ได้ว่าไม่เกี่ยวข้อง
ส่วนเรื่องการดำเนินคดีกับ "แม่ข่าย" นอกจาก 5 คน ที่เปิดเผยรายชื่อแล้ว ยังมีอีก 3 คน ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยหนึ่งในนั้นเป็นพรีเซนเตอร์ ที่เคยมีสัญญาคล้ายกับ "บอสกันต์" แต่กลับไม่ถูกดำเนินคดี
จากนั้นไม่นาน เพจฯ เฟซบุ๊ก "เคนโด้ช่วยด้วย" ออกมาโพสต์ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการกระทำผิดในคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" ได้ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว เรื่องที่ถูกพาดพิงจะให้ทนายความเข้ามาดูแล
ด้าน "กบ ไมโคร" และ "ลูกตาล ชลธิชา" เปิดใจเรื่องที่จะถูกฟ้องว่า ได้เตรียมพยานหลักฐานไว้พร้อมให้ DSI นำไปตรวจสอบแล้ว โดย "กบ ไมโคร" ยอมรับว่า มีลูกข่ายที่ขึ้นตรงกับตนเอง 75 คน เป็นลูกค้า 60 คน, ซุปเปอร์ไวเซอร์ 7 คน และดีลเลอร์ 8 คน ยืนยันไม่ได้แสดงบทเป็นเหยื่อเพื่อฟอกขาว
สำหรับ "พลอย อัยดา" ภรรยาของ "บอสกันต์" ตอนนี้ไม่ใช่คนที่ "ดิไอคอนกรุ๊ป" มีเป้าจะฟ้อง ต้องอยู่ที่หน่วยงานรัฐ จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร