ข่าวในหมวด ประเด็นร้อนออนไลน์

วันฮาโลวีน 2024 ตรงกับวันที่เท่าไร เปิดประวัติทำไมต้องแต่งผี

วันฮาโลวีน 2024

วันฮาโลวีน 2024 ตรงกับวันที่เท่าไร เปิดประวัติ "วันปล่อยผี" ตำนานความเชื่อทำไมต้องแต่งผี

วันฮาโลวีน 2024 หรือวันปล่อยผี ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี  เทศกาลประจำปีที่ผู้คนมักจะนิยมเเต่งกายคล้ายผี และตกแต่งสถานที่ชวนขนลุก

ประวัติวันฮาโลวีน (Halloween)
เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดจากเทศกาลดั้งเดิมของชาวเคลต์ (Celts) ที่มีชื่อว่า Samhain (อ่านว่า "SAH-win" หรือ "ซาห์-วิน") ซึ่งมักจะมีขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน เพื่อฉลองจุดสิ้นสุดของฤดูกาลเก็บเกี่ยว รวมทั้งการเตรียมพร้อมรับมือกับช่วงมืดของปี และยังถือว่าเป็นวันปีใหม่ของชาวเคลต์อีกด้วย

ชื่อของวันฮาโลวีน (Halloween) นั้นคาดว่าเพี้ยนมาจากคำว่า All Hallows Eve ซึ่งเป็นเทศกาลฉลองวันก่อนวันสมโภชนักบุญของศาสนาคริสต์ แปลว่า วันก่อนวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย โดยวิธีตัดต่อ Hallow + Eve = Halloween คำ Hallow เป็นคำแองโกลแซกซัน แปลว่า ทำให้ศักดิ์สิทธิ์ ตรงกับภาษาเยอรมันว่า heiligen ในปัจจุบันนิยมใช้คำมาจากภาษาละตินว่า sanctify คำ Hallow ยังมีใช้ในบทสวดอธิษฐานเก่า ๆ เช่น Hallowed be thy Name (ขอพระนามจงเป็นที่สักการะ)

Hallow ยังแปลว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ นักบุญ คำ All Hallowmas จึงแปลว่า วันสมโภชนักบุญทั้งหลาย ในปัจจุบันใช้คำว่า All Saints Day คู่กับ Christmas ซึ่งแปลว่า วันสมโภชพระคริสต์หรือคริสต์มาสนั่นเอง วันก่อนวันสมโภชคริสต์มาสมี Chrismas Eve ที่นิยมเรียกว่า คืน (ก่อน) คริสต์มาส วันก่อนวันสมโภชนักบุญทั้งหลายก็มี All Hallowmas Eve ซึ่งต่อมาย่อเป็น Halloween โดยมีงานรื่นเริงและพิธีกรรมทางศาสนาเช่นเดียวกับคืนคริสต์มาส ชาวคาทอลิกพร้อมใจกันเลื่อนพิธีกรรมทางศาสนาไปหลังวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย และเรียกว่า วันวิญญาณในแดนชำระ (All Souls Day) เพื่อให้คู่กับวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย (All Saints Day)
วันฮาโลวีน 2024
ขอบคุณภาพจาก ©JenkoAtaman- stock.adobe.com

ตำนานเเละความเชื่อ ทำไมต้องแต่งผี
มีความเชื่อที่ว่ากำแพงที่ปิดกั้นระหว่างโลกปัจจุบันและโลกหน้าหรือโลกแห่งจิตวิญญาณได้หายไปในช่วงเทศกาล Samhain นี้ ส่งผลให้มีการโคจรมาพบกันระหว่างผู้คนและเหล่าวิญญาณต่าง ๆ และก่อให้เกิดความเชื่อว่าการสวมชุดและหน้ากากผี เพื่อแฝงตัวเป็นวิญญาณร้ายจะสามารถขับไล่วิญญาณร้ายและทำให้หลีกเลี่ยงภัยอันตรายได้ รวมทั้งยังมีการรวมตัวกันรอบกองไฟและส่งเสียงดังเพื่อไล่วิญญาณร้ายออกไป

ในช่วงศตวรรษที่ 9 พระศาสนจักรคาทอลิก (Catholic Church) ได้นำเอาเทศกาลฉลอง All Saints Day ที่มีขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน เข้ามายังดินแดนเคลติก โดย All Saints Day มีอีกชื่อว่า Hallows Eve ซึ่งได้กลายมาเป็นชื่อเทศกาล Halloween ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ในที่สุด ธรรมเนียมปฏิบัติบางส่วนของทั้งเทศกาล Samhain และ Hallows Eve ได้ถูกนำมาผสมผสานเข้าด้วยกัน


ขอบคุณภาพจาก ©Zarina Lukash- stock.adobe.com

"ตะเกียงฟักทอง" สัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน
การแกะสลักฟักทองเป็นตะเกียง หรือ "Jack-o'-Lantern" ธรรมเนียมการแกะสลักฟักทองเป็นตะเกียงหรือโคมไฟนั้นมีที่มาจากตำนานพื้นบ้านของชาวไอริช เกี่ยวกับชายที่ชื่อว่า Stingy Jack หรือแจ๊กจอมขี้เหนียว ที่หลอกล่อปีศาจด้วยกลโกงต่าง ๆ นานา พอแจ็กเสียชีวิต พระเจ้าไม่ยอมให้เขาขึ้นสวรรค์ ส่วนปีศาจก็โกรธแจ็กและไม่ยอมให้เขาลงนรก พร้อมส่งให้แจ็กออกเดินทางไปยังโลกมืดโดยมีแต่ถ่านเพื่อจุดไฟนำทาง ตำนานเล่าต่อไปว่าแจ็กได้เอาถ่านนี้ใส่ไว้ในหัวผักกาดเทอร์นิพที่ถูกเจาะให้กลวงเป็นตะเกียง และยังออกเดินทางไปทั่วตั้งแต่นั้นมา

ในประเทศไอร์แลนด์และสกอตแลนด์ ผู้คนได้นำเอาหัวผักกาดเทอร์นิพหรือมันฝรั่งมาทำโคมไฟหรือตะเกียงของแจ็ก พร้อมกับแกะสลักหน้าที่น่ากลัว แล้ววางไว้ริมหน้าต่างหรือใกล้ ๆ กับประตูเพื่อป้องกันไม่ให้ Stingy Jack หรือวิญญาณร้ายเข้ามาใกล้ ในอังกฤษมีการใช้บีตขนาดใหญ่ ผู้อพยพจากประเทศเหล่านี้ได้นำเอาความเชื่อและประเพณีดังกล่าวไปยังสหรัฐอเมริกาด้วย ต่อจากนั้นไม่นาน พวกเขาได้ใช้ฟักทองที่พบได้มากในอเมริกาเพื่อทำเป็นตะเกียง Jack-o'-Lantern


ขอบคุณภาพจาก ©famveldman - stock.adobe.com

การเล่น Trick or Treat (หลอกหรือเลี้ยง)
Trick or Treat
เป็นการละเล่นยอดนิยมของเด็ก ๆ ในวันฮาโลวีน โดยเด็ก ๆ มักจะแต่งตัวเลียนแบบภูตผีปีศาจ แล้วออกไปตามบ้านเพื่อเคาะประตูแล้วกล่าวคำว่า "Trick or Treat" หากเจ้าบ้านไม่เลี้ยง หรือ Treat (ส่วนใหญ่จะเป็นขนม ช็อกโกแลต หรือลูกอม) ตามที่เด็ก ๆ ร้องขอ เด็ก ๆ ก็จะก่อกวนเจ้าบ้านหรือบริเวณที่พักอาศัย หรือ Trick นั่นเอง ซึ่งในบางพื้นที่ของประเทศไอร์แลนด์และสกอตแลนด์เด็ก ๆ จะร้องเพลง หรือเล่าเรื่องผีเพื่อให้เจ้าบ้านยอม Treat

BUGABOONEWS
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมประชาสัมพันธ์

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark