ชัด บอสพอล คุยกับคนสนิทนักการเมือง

ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตามกันต่อกับคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" หลายคนจับตามองเรื่องของข่าวลือ ว่าจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาล็อตที่ 2 และข่าวแจ้งข้อหาเพิ่มกับ "บอส" ทั้ง 18 คน ทั้ง 2 เรื่องนี้ยังไม่ชัดเจนว่าอย่างไร แต่ที่แน่ ๆ เรื่องคลิปเสียงนักการเมืองชัดเจนแล้ว

ชัด บอสพอล คุยกับคนสนิทนักการเมือง
พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง "บอสพอล" และคนสนิทนักการเมืองว่า ที่ประชุม บก.ปปป. จะนำผลการตรวจสอบของตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน มาพิจารณาว่า มีการตัดต่อไฟล์เสียงหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นยืนยันได้ว่า ไฟล์เสียงที่มีการเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ ไม่ใช่การตัดต่อ เพราะตำรวจพบไฟล์เสียงต้นฉบับ จากโทรศัพท์ของ "บอสพอล" อีกทั้งคำให้การของเจ้าตัวก็ยืนยันว่าคลิปดังกล่าวเป็นของจริง ตนเองคือคู่สนทนาภายในคลิป และยังสามารถระบุชื่อ และตำแหน่งของคนที่คุยด้วยได้อย่างถูกต้อง

ส่วนแนวทางการสืบสวนหลังจากนี้ จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าให้ปากคำ รวมถึงการพิสูจน์ยืนยันบุคคลในคลิปเสียงทั้ง 200 ไฟล์ อีกครั้ง ทั้งนี้ยอมรับว่าในจำนวน 200 ไฟล์เสียงนี้ มีเสียงของคนสนิทนักการเมืองอยู่ในจำนวนนี้ด้วยจริง

ขณะที่ พันตำรวจตรี วรนันท์ ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ได้รับมอบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมจาก "ทนายตั้ม" เกี่ยวกับ "พยานลับ" ที่ระบุได้ว่าคนสนิทนักการเมือง มีการรับเงินจาก "บอสพอล" จริง เพียงแต่ไม่รู้ว่า หลังจากรับเงินมาแล้ว ได้ส่งต่อไปให้ใครหรือไม่ หรือเก็บเข้ากระเป๋าตัวเอง ว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องที่จะรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการดูข้อเท็จจริง

ต้องยอมรับว่าคดีนี้ผู้เสียหายมีมาก ความเสียหายมหาศาล จึงไม่แปลกที่สังคมจะเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกร่วม ไม่ต่างจาก "หนุ่มเมืองจันท์" นักเขียน ที่ติดตามข่าวนี้ ก็เชื่อเช่นกันว่า มีการกระทำผิดเกิดขึ้น เพียงแต่กระแสข่าวต่าง ๆ ที่ออกมา ก็อยากให้ทุกคนตั้งสติแยกระหว่าง "ข้อเท็จจริง" กับ "ความรู้สึก" ความผิดต้องยืนอยู่บนข้อเท็จจริง เพราะ คดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่เริ่มต้นด้วยอารมณ์ร่วม พอผ่านไป 3 ศาลฯ ก็เหลือความผิดแค่ พ.ร.บ.นำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เท่านั้น ฉะนั้นผิดไม่ผิด ก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน อย่าตัดสินด้วยอารมณ์

สำหรับจำนวนผู้เสียหายคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" ที่เข้าแจ้งความเฉพาะที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งแต่วันที่ 10 ถึงวันนี้ 21 ตุลาคม มีผู้เสียหายที่ตำรวจสอบปากคำแล้ว เกือบ 3,000 คน ความเสียหายกว่า 983 ล้านบาท

กรมป่าไม้ ตรวจสอบพื้นที่ ไร่เชิญตะวัน
กรมป่าไม้ ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ "ไร่เชิญตะวัน" จังหวัดเชียงราย หลังมีรายงานการพบการบุกรุกพื้นที่ 51 ไร่

เช้านี้ (21 ต.ค.) เจ้าหน้าที่จากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ "ไร่เชิญตะวัน" ในตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่บนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยปุย

หลังโซเชียลฯ ไปพบข้อมูลว่า ไร่เชิญตะวันมีเนื้อที่รวมทั้งสิ้น 190 ไร่ นั่นหมายความว่า มีการบุกรุกพื้นที่ของกรมป่าไม้ นอกเหนือจากการอนุญาตใช้ประโยชน์ จำนวน 51 ไร่

ซึ่งตามข้อเท็จจริง มูลนิธิวิมุตตยาลัยของไร่เชิญตะวัน ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ก่อสร้าง 113 ไร่ และทางสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขอใช้อีก 26 ไร่ ในจำนวนนี้เป็นที่สร้างวัด 14 ไร่ 3 งาน และใช้เป็นพื้นที่ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน อีกกว่า 11 ไร่ เมื่อรวมพื้นที่ขออนุญาต จึงอยู่ที่ 139 ไร่

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งอาจจะต้องรอผลประมาณ 1-2 วัน ขอให้สังคมอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเป็นการบุกรุกหรือไม่

ขณะที่ เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เชื่อว่า การใช้พื้นที่ของ "ไร่เชิญตะวัน" ได้ขออนุญาตเข้าไปใช้งานอย่างถูกต้อง จึงอยากให้รอการตรวจสอบของกรมป่าไม้ก่อน

ส่วนประเด็น เอกสารแถลงการณ์ ของพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ที่เขียนพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 พิธีกรชื่อดัง จนถูกวิจารณ์ว่าใช้ถ้อยคำรุนแรงเกินไป กรณีดังกล่าวต้องรอพระอาจารย์ ว.วชิรเมธีกลับมาจากประเทศญี่ปุ่นก่อน ถึงจะเริ่มกระบวนการสอบได้ เพราะช่วงนี้ท่านอาจจะอยู่ระหว่างเตรียมงานทอดกฐิน

ชูศักดิ์ มอบ สนง.พระพุทธฯ ตรวจสอบคดีเกี่ยวกับพระ
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยังไม่ได้รับรายงานเรื่อง บ้านแชร์น้องแครอท ต้องให้สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นเจ้าภาพในการดูข้อเท็จจริง ส่วนกรณีศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน ได้มอบให้สำนักพุทธฯ ดำเนินการติดตาม หากเป็นเรื่องของพระและเกี่ยวข้องกับหลักธรรมวินัย ก็ต้องให้เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ หากเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนก็ดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย

พรุ่งนี้ กมธ.การสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ตรวจสอบ ไร่เชิญตะวัน
ขณะที่คณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ที่มีประธานคณะกรรมาธิการเป็นอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ และอดีตหัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร เปิดเผยกับทีมข่าวการเมือง 7HD ว่า ได้รับการสอบถามจากหลายคนว่าศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนฯ ดังนั้นวันนี้จะประสานขอข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเข้าที่ประชุมพิจารณาเป็นวาระเร่งด่วน วันพรุ่งนี้เวลา 10 .00 น. เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ