บอสพอล ร่ำไห้ ยินดีเยียวยาผู้เสียหายทุกคน
ประเด็นเด็ด 7 สี - วันนี้ "บอสพอล" ได้ออกมาเปิดใจกลางรายการโทรทัศน์ทั้งน้ำตา ยอมรับได้พูดคุยกับนักการเมืองตามคลิปเสียงเสียงที่หลุดออกมาจริงในการวิ่งเต้นคดี พร้อมยินดีจ่ายเงินชดใช้ให้ผู้เสียหาย จนกว่าตนเองจะไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว
บอสพอล ร่ำไห้ ยินดีเยียวยาผู้เสียหายทุกคน
นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ได้ออกมาเปิดใจเกี่ยวกับคดีดิไอคอน ในรายการโทรทัศน์ โดยระบุว่ายินดีจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้เสียหายทุกคนที่ได้รับผลกระทบจนกว่าตนเองจะหมดเงินบาทสุดท้าย
ส่วนเรื่องคลิปเสียงพูดคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง ลักษณะเสียงคล้ายกับนักการเมือง พูดในทำนองช่วยเหลือวิ่งเต้นเรื่องคดี เป็นเสียงของตนเองจริง เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว หลังถูกนักร้องเรียน และทนายความ เรียกรับเงิน 100,000 บาท และเคยจ่ายมากที่สุดถึง 3 ล้านบาท แต่หากไม่ยอมจ่ายตนเองจะถูกฟ้องร้อง จึงจ่ายเพื่อตัดปัญหา และไม่ขอเปิดเผยรายชื่อนักร้องและทนายความที่ทำพฤติกรรมลักษณะนี้
สำหรับภาพสต็อกสินค้าที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด มีสต็อกสินค้าอยู่จริงหรือไม่ บอสพอล อ้างว่า มีสินค้าอยู่จริง แต่หลังจาก บริษัทฯ กลายเป็นคดีดัง ก็มีคนตื่นตระหนก กดสั่งซื้อสินค้าไปจำนวนมาก จนสินค้าในสต็อกเหลือเพียงเท่าที่เห็น
อย่างไรก็ตามหลัง "บอสพอล" ออกรายการเสร็จ นักข่าวพยายามสอบถามประเด็นเรื่องคลิปเสียง แต่ "บอสพอล" ก็ไม่ยอมตอบคำถามใด ๆ ก่อนจะขึ้นลิฟต์หลบไป
จากคำกล่าวอ้างของ "บอสพอล" ทำหลายคนสงสัยว่าเป็นกำลังโกหกหรือไม่ ทีมข่าวสอบถามไปยัง รองศาสตราจารย์ พันตำรวจโท กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต แสดงความคิดเห็นว่า การออกสื่อทั้ง 2 ครั้ง
จากการสังเกต "บอสพอล" มีภาษากายหลายอย่างบ่งบอกว่า พูดความจริงไม่หมด การทวนคำถามซ้ำก่อนตอบทุกครั้ง วิเคราะห์ได้ว่า ผู้ตอบมีความระมัดระวังในการตอบคำถามสูง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดจากสิ่งที่อาจปกปิดไว้
ส่วนที่ 2 สีหน้าแววตา มีความวิตกกังวลและความเครียดสะสม บ่งชี้ว่าผู้ตอบอาจยังมีสิ่งที่ปกปิดหรือพูดไม่หมด
และ "การร้องไห้" วิเคราะห์ได้ว่าอาจเกิดขึ้นจากความกังวลที่แท้จริง หรืออาจเกิดจากความคิดที่เตรียมไว้แล้ว อาจทำไปเพื่อลดดีกรีความโกรธและเรียกคะแนนความสงสารจากผู้ฟัง ทำให้ผู้เสียหายใจเย็นลงและรับฟังมากขึ้น
ยอดผู้เสียหายแจ้งความ รวม 4 วัน 935 คน
ยอดผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ลงทุนร่วมกับ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. รวม 4 วัน เข้าแจ้งความแล้ว 935 คน มูลค่าความเสียหายเกิน 232 ล้านบาท
แบ่งเป็น วันที่ 10 ตุลาคม ตำรวจสอบปากคำ 91 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 35.4 ล้านบาท วันที่ 11 ตุลาคม สอบปากคำ 148 คน มูลค่าความเสียหาย 54.7 ล้านบาท วันที่ 12 ตุลาคม สอบปากคำ 198 คน มูลค่าความเสียหาย 71.9 ล้านบาท วันที่ 13 ตุลาคม สอบปากคำ 198 คน มูลค่าความเสียหาย 70.4 ล้านบาท และ วันนี้ (14 ต.ค.) มีผู้เข้าแจ้งความเพิ่ม 300 คน
ด้าน กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมรับคดีดิไอคอน เป็นคดีพิเศษ ถ้าคดีนี้มีความผิดแบบคดีแชร์ลูกโซ่ ทั้งนี้ ต้องรอตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาก่อน ทาง ดีเอสไอ จึงเสนอตัวเป็นเจ้าภาพบูรณาการณ์ทำงานร่วมกับตำรวจช่วยกันทำคดี