บุกคลินิกกลางกรุง รวบหมอเถื่อนให้บริการความงาม
วันนี้ (11 ต.ค.67) นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กลุ่มไซเบอร์ กองกฎหมาย กรม สบส.ประสานความร่วมมือกับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. และแพทยสภา ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ณ คลินิกแห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่ แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พบบุคคลซึ่งเป็นแพทย์จากประเทศเกาหลีใต้ กำลังให้บริการด้านการให้คำปรึกษา และประเมินการให้บริการเสริมความงามแก่ผู้รับบริการ โดยมีการสัมผัสบริเวณใบหน้า และให้การวินิจฉัยกับผู้รับบริการ
จากการตรวจสอบพบช้อมูลว่า ในการตรวจประเมินและวินิจฉัยในแต่ละครั้งนั้น ทางคลินิกจะให้ผู้รับบริการเข้าพบแพทย์ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล และแพทย์ชาวเกาหลีใต้ ผ่านเอเจนซี ซึ่งการกระทำของแพทย์ชาวเกาหลีใต้ เข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ในฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยมี นพ.ต่อพล วัฒนา ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งกรม สบส. จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ฐานปล่อยปละละเลยให้ผู้อื่นซึ่งมิใช่ผู้ประกอบวิชาชีพทำการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกรณี ของแพทย์ชาวเกาหลีใต้ กรม สบส.จะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยมีหมายเรียกให้แพทย์ชาวเกาหลีใต้มาสอบสวนต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. และจะดำเนินการรวบรวมข้อมูลส่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหากมีการหลบหนีจะมีหนังสือแจ้งไปถึงองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือ "อินเตอร์โปล" เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า กรณีที่คลินิกเสริมความงาม จะนำแพทย์จากต่างประเทศ เข้ามาให้บริการในคลินิกไม่ว่าจะให้บริการประจำหรือไม่ประจำก็ตาม จะต้องดำเนินการให้ถูกกฎหมาย โดยต้องขออนุญาตกับ สบส. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ และตัวแพทย์ผู้ให้บริการจะต้องต้องสอบใบประกอบวิชาชีพเพื่อประกอบวิชาชีพในประเทศไทยให้ได้ก่อน จึงจะมีสิทธิ์ให้การรักษา ทั้งนี้เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน หากใช้แพทย์ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นแพทย์หรือไม่ก็ตาม จะเข้าข่ายว่าคลินิกแห่งนั้นใช้หมอเถื่อน ซึ่งจะมีบทลงโทษทั้งหมอเถื่อน และแพทย์ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล