อ้างเมาขาดสติ ลุงหื่นข่มขืนหลานสาว 13 นานนับปี
ลุงหื่นข่มขืนหลานสาวในไส้อายุ 13 ปี นับครั้งไม่ถ้วน ในระยะเวลา 1 ปี กระทั่งโดนเมียจับได้ตอนกำลังถอดเสื้อผ้าก่อเหตุ เจ้าตัวอ้างเมาขาดสติ
วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สว.ป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุลุงพยายามข่มขืนหลานสาว เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.17 บ.หนองใส ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี โดย ผู้ใหญ่บ้านและญาติได้ควบคุมตัว นายณัฐพล อายุ 53 ปี ผู้ก่อเหตุเอาไว้แล้ว จึงรุดออกไปตรวจสอบ
นายณัฐพล ผู้ก่อเหตุ ให้การยอมรับว่าข่มขืน ด.ญ.เอ (นามสสมติ) หลานสาวอายุ 13 ปี จริง และทำมาแล้วหลายครั้ง เวลาตนเมาเหล้าขาดสติ จนจำไม่ได้ว่าทำไปกี่ครั้งแล้ว และเมื่อคืนที่ผ่านมาตนนั่งกินเหล้าอยู่บ้านคนเดียวจนเมาขาดสติ จึงเข้าไปในห้องนอนหลานสาวตามปกติ ก่อนจะถูกภรรยาจับได้คาหลังคาเขา ขณะกำลังจะถอดเสื้อผ้าตัวเองขืนใจหลานสาว ทุกครั้งที่ทำตนไม่ได้บังคับขู่เข็ญหลาน อยากขอโทษน้องสาวว่า “เฮียผิดไปแล้ว”
ด้าน ด.ญ.เอ เล่าว่า ถูกลุงแท้ๆ ที่เป็นพี่ชายแม่ ขืนใจในห้องนอนมานานร่วม 1 ปี โดยลุงจะข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร ไม่อย่างนั้นจะโดนทำร้าย
นางน้อย ป้าผู้เสียหายและเป็นภรรยาผู้ก่อเหตุ ให้การว่า ตนอยู่กินกับสามีมา 10 กว่าปี สามีตนเป็นคนเจ้าชู้ มีพฤติกรรมผิดสังเกตมานานแล้ว เวลาสามีเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน ได้ยินแต่เสียงปิดประตูและเปิดไฟ แต่ไม่ได้ยินเสียงน้ำเลย เมื่อคืนที่ผ่านมา จึงค่อยๆย่องออกจากห้องไปก้มดูในห้องน้ำ ก็ไม่พบขาสามีอยู่ในห้องน้ำ จึงกลับมาเอากุญแจไปเปิดห้องหลานสาว พร้อมกับเปิดไฟดู พบสามีกำลังจะถอดเสื้อผ้าขืนใจหลานสาว ส่วนหลานสาวถูกถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้ว สามีตนตกใจใช้ผ้าห่มปิดร่างกายหลานสาว แล้ววิ่งออกจากห้องไป ตนรับไม่ได้ที่สามีทำกับหลานแท้ๆแบบนี้ มันมึนงงไปหมด หลังปรึกษากับญาติพี่น้อง ทุกคนก็รับไม่ได้เช่นกัน เพราะหลานสาวคนนี้ตนและสามีชุบเลี้ยงมาตั้งแต่ 3-4 ขวบ เพราะพวกตนไม่มีลูกด้วยกัน จึงรักเขาเหมือนลูกในไส้
แม่ ด.ญ.เอ เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนแยกทางกับสามีตอนลูกสาวอายุ 3-4 ขวบ พี่ชายอยากรับลูกสาวตนไปเลี้ยงเป็นลูก ตนเห็นว่าเขารักเอ็นดูลูกตน จึงมอบลูกให้พี่ชายเลี้ยงดูตั้งแต่นั้นมา ส่วนตนก็ไปมีสามีใหม่ไม่คิดว่าพี่ชายจะทำแบบนี้ และตนก็ไว้เนื้อเชื่อใจเขา เนื่องจากเขาเป็นพี่ชายแท้ๆ หลังรู้ข่าวแทบช็อก คิดว่าฝันไป พยามหยิกแขนตัวเองตลอดว่ามันไม่ใช่ความจริง หลังจากนี้ตนก็จะเอาลูกมาอยู่ด้วย ส่วนพี่ชายให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ให้เขารับผิดชอบในสิ่งที่เขากระทำ เพราะลูกตนก็คงมีตราบาปอยู่ในใจไปตลอด
ตำรวจได้ตรวจปัสสาวะผู้ก่อเหตุไม่พบสารเสพติด หลังจากนั้นน้องสาวและภรรยาของผู้ก่อเหตุ พา ด.ญ.เอ มาแจ้งความที่โรงพัก โดยเข้าไปให้ปากคำกับตำรวจชุดจับกุม และได้พบนายณัฐพล ลุงหื่น น้องสาวและภรรยาได้ต่อว่าถึงสิ่งที่ผู้ก่อเหตุทำกับหลาน ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ได้แต่ก้มหน้ายอมรับผิดในสิ่งที่ตนกระทำลงไป ในเบื้องต้นตำรวจชุดจับกุมแจ้งข้อกว่าหาว่า “กระทำการอนาจารเด็ก อายุไม่เกิน 15 ปี” ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป