ชาวตรังวิจารณ์สนั่น ถนนใช้งานดี ไม่ชำรุด รื้อซ่อมใหม่หลายเส้น
วันนี้ (4 ก.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง มอบหมายให้ นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างซ่อมแซมและปรับปรุงถนนจำนวน 9 สาย ที่ดำเนินการก่อสร้างอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกโซเซียลว่า ทำไมถึงต้องมีการก่อสร้างซ่อมแซม ทั้งที่ถนนบางเส้นบางสาย ยังดีอยู่ ยังไม่ชำรุด และบางเส้นบางสายเพิ่งจะปรับปรุงซ่อมแซมมาไม่กี่ปี แต่กลับมารื้อเพื่อทำใหม่ โดยมีผู้อำนวยการส่วนควบคุมการก่อสร้างอาคารและผังเมือง สำนักช่างเทศบาลนครตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลนครตรัง เข้าร่วมตรวจสอบและชี้แจง
นายชัยธวัช อายุ 32 ปี ชาวบ้านในบริเวณดังกล่าว เผยว่า ถนนยังไม่ได้ผุผัง ยังไม่ได้เป็นหลุมเป็นบ่อ กระทั่งมีการเข้ามาลอกพื้นถนน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนว่าจะมีการรื้อถอน ตนเปิดร้านขายแม็กซ์ยางรถยนต์และอะไหล่แต่ง ได้รับผลกระทบการสัญจร ลูกค้าและรถตัวเองไม่สามารถขับขึ้นไปทำงานที่ร้านได้ เพราะพื้นถนนกับพื้นร้านมีความต่างระดับกัน การซ่อมแซมรื้อถนนใหม่นี้ ความคิดตนมองว่าไม่น่าจะเป็นความต้องการของประชาชน เพราะถนนยังคงใช้งานได้ปกติ ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าถนนมีระยะเวลาที่เสื่อมสภาพหรือไม่
ด้าน นายยุทธนา กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ถนนบางสายก็มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ไม่มีสภาพที่จะใช้งานได้แล้ว ก็สมควรที่จะต้องปรับปรุงซ่อมแซม แต่ถนนบางสายดูจากกายภาพยังไม่ชำรุดทรุดโทรม สามารถใช้วิธีการอื่น ๆ ได้นอกจากขุด คุ้ย รื้อ แทนที่ซ่อมแซมใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง เหตุผล ความจำเป็นในการทำโครงการนี้ขึ้นมา มีความเกี่ยวข้องกับการทุจริต หรือประพฤติมิชอบหรือไม่อย่างไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงในเรื่องทุจริตหรือประพฤติมิชอบ แต่หากการตรวจสอบพบว่าการดำเนินการโครงการไม่เหมาะสม ในเรื่องวินัยการเงินการคลัง หรือ เรื่องประโยชน์ประหยัด และคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรังจะประสานข้อมูลกับสํานักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ดำเนินการตรวจสอบต่อไป
เบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดของโครงการ แต่ทราบว่าดำเนินการในถนนหลายสาย จึงให้ทางเทศบาลนครตรัง เปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อความโปร่งใส ว่าโครงการทั้งหมดที่จ่ายขาดเงินสะสม มีทั้งหมดกี่สาย งบประมาณกี่ร้อยล้านบาท แต่ละสายมีเหตุผลความจำเป็นเชิงวิศวกร เชิงวิศวกรรมอย่างไรบ้าง ถึงได้ตั้งงบประมาณในการซ่อมแซม เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลต่าง ๆ
“วันนี้หน่วยงานของรัฐ ต้องฟังเสียงประชาชน หากในอดีตจะต้องจัดทำประชาคม แต่ปัจจุบันนี้ มีเพจ มีสื่อโซเซียล ออนไลน์ต่างๆ ที่ประชาชนให้ความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต เพราะต่างก็เป็นห่วงการใช้จ่ายงบประมาณ ก็สมควรรับฟังประชาชนในพื้นที่ และต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์เชิงรุก สร้างความรับรู้ให้กับประชาชนได้เข้าใจเหตุผล ความจำเป็นในการจัดทำบริการสาธารณะต่าง ๆ ของเทศบาลนครตรัง เพื่อความโปร่งใส ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ และการมีส่วนร่วมจากประชาชนอย่างแท้จริงอีกทางหนึ่งด้วย” นายยุทธนา กล่าวทิ้งท้าย
ขณะที่ นายชัยวุฒิ สวัสดิรักษ์ ประธานชมรมตรังต้านโกง และกรรมการธรรมาภิบาล จ.ตรัง กล่าวว่า ถนนบางส่วนเช่นภายในสนามกีฬากลางเทศบาลนครตรัง ซึ่งใช้เป็นสถานที่ที่มีประชาชนออกมาใช้สำหรับวิ่งออกกำลังกาย เห็นควรว่าจะต้องมีการปรับปรุงซ่อมแซม เพราะสภาพถนนเดิมมีปัญหาอยู่สำหรับผู้ที่ใช้ออกกำลังกาย แต่ในถนนบางสายที่ประชาชนร้องเรียนมาว่าถนนยังดีอยู่นั้น ทางฝ่ายกองช่างเทศบาลชี้แจงว่า แม้ชาวบ้านจะเห็นว่าถนนดีอยู่ แต่ในความเป็นจริงถนนหมดอายุแล้ว มีรอยแตกร้าว หากปล่อยผ่านนานไป อาจจะต้องจ่ายค่าซ่อมที่มากกว่านี้
แต่จากการตรวจสอบยังเห็นว่า ถนนบางสายใช้ได้ดีอยู่ ไม่ควรจะรีบรื้อรีบซ่อม เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ นำไปใช้ในส่วนอื่น ยิ่งในยุคนี้ งบประมาณแผ่นดินที่ส่งมายังท้องถิ่นไม่มาก ก็อยากให้ท้องถิ่นคำนึงถึงการใช้เงินที่มาจากภาษีอากรของประชาชนให้ได้ประโยชน์กับประชาชนมากกว่านี้
นายธวัช องศารา ผู้อำนวยการส่วนควบคุมการก่อสร้างอาคารและผังเมือง สำนักช่างเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณที่ได้รับตรงจากส่วนกลาง หรืองบประมาณปกติเทศบัญญัติ งบเฉพาะกิจ และงบจ่ายขาดสะสม หลายโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ เช่นงบประมาณรื้อผิวถนนภายในสนามกีฬากลางเทศบาลนครตรังประมาณ 10 ล้านบาท เพราะสภาพผิวถนนที่มีคนมาใช้ออกกำลังกายจะเกิดอันตรายได้ จากการสำรวจจุดสนามกีฬา พบว่าชั้นล่างของใต้ผิวจราจร มีความหนาของชั้นพื้นทางไม่มากเพียงพอ จึงรื้อและลงหินคลุกเป็นชั้นพื้นทางใหม่อีก 20 เชนติเมตร และปูถนนแอสฟัลท์ติกอีก 5 เซนติเมตรเต็มพื้นที่ของสนามกีฬา
ส่วนในเส้นทางอื่นเราก็สำรวจแล้วว่ามีความเสียหาย บางส่วนเสียหายที่ผิวถนน บางส่วนเสียหายที่โครงสร้างพื้นฐานของถนน การก่อสร้างแต่ละเส้นทางรูปแบบไม่เหมือนกัน บางเส้นทางปูทับของเดิม บางเส้นทางรื้อชั้นโครงสร้างพื้นฐานทางเดิม เพื่อทำการปรับปรุงใหม่ บางส่วนเป็นการ Recycling เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย
กรณีที่ชาวบ้านมองว่าถนนที่มีการปรับปรุง ชาวบ้านอาจจะเห็นด้วยการสัมผัสทางสายตาว่ายังมีความราบเรียบอยู่ แต่ในความราบเรียบนั้น บางครั้งก็มีความเสียหายอยู่ อาจจะมีร่องล้อรถบ้าง อาจจะมีปริมาณของยางที่มากขึ้น ความสากของผิวที่น้อยลง มีรอยแตก หากไม่ปรับปรุงซ่อมแซมหรือให้อยู่ในสภาพที่ดีขึ้น วันข้างหน้าอาจเกิดความเสียหาย ค่าใช้จ่ายในการที่จะปรับปรุงวันข้างหน้า มีมูลค่าสูงมากกว่านี้หลายเท่า วันนี้เราทำในราคาขนาดนี้ อีก 5-10 ปีข้างหน้า ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้น ทุกอย่างดำเนินการถูกต้องตั้งแต่ขั้นตอนความต้องการของประชาชน การจัดทำแผนพัฒนา กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง กระบวนการตรวจรับ ทำตามระเบียบทุกประการ วันนี้ไม่ปรับปรุงวันหน้าก็ต้องปรับปรุง เพราะเกิดความเสียหาย ซึ่งที่ประชาชนกังวลว่าไม่เหมาะสม ลึก ๆ เราวิเคราะห์ คำนึงถึงโครงสร้างทางวิศวกรรม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า เทศบาลนครตรัง ได้จัดทำโครงการ ปรับปรุงผิวจราจรแอสฟัลติกคอนกรีต ตั้งแต่ 1 มี.ค. 2567 ถึงวันที่ 30 ก.ย.67 รวม 34 โครงการ งบประมาณ 70,529,480.16 บาท ซึ่งบางโครงการดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว บางโครงการกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ บางโครงการยังไม่เริ่มดำเนินการ.