ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ต้นเหตุเพลิงไหม้รถบัส เพราะ ส่วนควบ ขัดข้อง

เช้านี้ที่หมอชิต - เหตุโศกนาฏกรรมใหญ่ "รถบัสทัศนศึกษา" เกิดเพลิงไหม้ ซึ่งปมเหตุที่ทำให้เกิดขึ้น วานนี้ ก็ถูกจี้ถามกันดุเดือด แต่เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ไปพบข้อน่าสังเกตบางอย่าง ที่เชื่อว่าเป็นชนวนเหตุ อาจทำให้เกิดเหตุสลดครั้งนี้

ต้นเหตุเพลิงไหม้รถบัส เพราะ ส่วนควบ ขัดข้อง
ผลจากการเข้าไปสำรวจซาก "รถบัสทัศนศึกษา" หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งตัวรถถูกเคลื่อนย้ายไปจอดเก็บไว้ที่ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เป็นการชั่วคราว เบื้องต้น พบรถบัส ได้ติดตั้งถังก๊าซ NGV 11 ถัง แต่ในจำนวนนี้มีเพียง 6 ถัง ที่ได้รับอนุญาต ที่เหลือไม่พบการขออนุญาตแต่อย่างใด

ส่วนข้อสงสัยต่อมาเป็นเรื่อง "ผ้าเบรก" ว่าอาจเกิดติดขัดจนเกิดความร้อนขึ้น ทำให้ยางแตก ก่อนจะเกิดประกายไฟปะทุเข้ากับก๊าซ NGV ที่สะสมอยู่ จนทำให้เกิดเพลิงไหม้อย่างรวดเร็ว

บิ๊กต่าย สรุปเหตุเพลิงไหม้รถบัส ยืนยันคนขับรถประมาท
แต่เบื้องต้น รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความประมาทเลินเล่อ ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียร้ายแรง โดยพิจารณาเทียบจากคำสารภาพของคนขับรถบัส

รวมทั้งยังได้เก็บหลักฐาน ณ จุดเกิดเหตุเพิ่มเติม เพื่อนำไปจำลองเหตุการณ์ประกอบสำนวนในคดี ซึ่งหากสาวไปถึงใคร ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด

นอกจากผลการตรวจสอบซากรถ ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ยังขอให้ปิดการจราจรในช่องทางด่วน ของถนนวิภาวดี-รังสิต ช่วงบริเวณหน้าห้างเซียร์รังสิต ยาวไปจนถึง อนุสรณ์สถานแห่งชาติ เพื่อทำการวัดระยะการเบรก หาจุดที่คาดว่าทำให้ยางเกิดการระเบิด หรือ ทำให้รถบัสเสียหลัก เพื่อทำการเก็บข้อมูลไปจำลองเหตุการณ์หาข้อเท็จจริงประกอบสำนวนคดี

ขบ.ชี้แจงปมรถบัสมีอุปกรณ์หลายจุด ขัดกับเอกสาร
ขณะที่ นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ที่ถูกสื่อฯ จี้ถาม เกี่ยวกับรถคันนี้ ทั้งประเด็นการจดทะเบียน กับกรมการขนส่งทางบก เมื่อปี 2513 ว่า จริงหรือไม่ ก่อนจะผ่านการดัดแปลงและจดทะเบียนใหม่อีกครั้ง รวมทั้งพบการชำระภาษีต่าง ๆ อย่างถูกต้อง ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า ขัดแย้งกับเอกสารที่ปรากฏออกมา และโดยเฉพาะข้อสงสัยปมการติดตั้งถัง NGV ถึง 11 ถัง ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะผ่านการตรวจสภาพรถไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา

สั่งย้าย หัวหน้าฝ่าย-นายช่าง ขนส่ง จ.สิงห์บุรี
เบื้องต้น เรื่องนี้ ก็สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งปมของรถบัสก็มีหลากประเด็นให้สะสางทั้งประตูที่เปิดไม่ได้ หรือแม้แต่ "ค้อน" ที่ไว้ทุบกระจกภายในรถซึ่งก็หากันมาแล้ว 2 วัน แต่ก็ยังไม่พบ

ขณะเดียวกัน กรมการขนส่งทางบก ก็สั่งย้ายหัวหน้า ฝ่าย และนายช่างตรวจสภาพรถ สำนักงานขนส่งสิงห์บุรี มาช่วยราชการที่กรมฯ แล้ว เพื่อสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการทางวินัยขั้นสูงสุด

สั่งบริษัทรถบัสที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ หยุดดำเนินการ
นอกจากนี้  กระทรวงคมนาคม สั่งบริษัทต้นสังกัดรถบัสที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ หยุดประกอบกิจการชั่วคราว เพื่อเข้าสู่กระบวนตรวจสอบข้อเท็จจริง และสั่งให้ กรมขนส่งทางบก เรียกตรวจสภาพรถโดยสารที่ใช้ ก๊าซ NGV ทั้งหมด 13,426 คัน ให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน หากไม่ผ่านจะยึดใบประกอบกิจการทันที

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยอมรับ กฎหมายล้าสมัยจะเร่งปรับปรุง เบื้องต้น สั่งเพิ่มพนักงานท้ายรถ, กำหนดให้ผ่านการอบรมป้องกันอุบัติภัย และต้องมีการสาธิตวิธีเอาตัวรอดจากอุบัติเหตุรูปแบบต่าง ๆ เหมือนการใช้บริการบนเครื่องบิน

แนะปิดวาล์วกรณีก๊าซรั่ว ป้องกันเกิดเพลิงไหม้
มาดูที่การรับมือกรณีโดยสารไปกับรถที่ติดถัง NGV แล้วเกิดอุบัติเหตุก๊าซรั่วไหล มีคำแนะนำว่า ควรรีบปิดวาล์วถังให้ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ลักษณะวาล์ว เปิด-ปิด คล้ายถัง LPG ที่ใช้ตามบ้าน

สิ่งที่ต้องย้ำ กรณีนี้ หากผู้ขับขี่ยังสามารถเข้าถึงถังก๊าซ เช่น ถังด้านหน้าปิดวาล์วไม่ได้ ก็ให้รีบไปปิดถังด้านหลังของรถ อาจช่วยบรรเทาเหตุได้ และต้องพยายามระบายก๊าซ ที่รั่วไหลออกมาให้มากที่สุด เปิดช่องทางระบายอากาศออกนอกตัวรถ มากกว่า กระจายอยู่ในตัวรถ สิ่งสำคัญหากเกิดเหตุไฟลุกลามเกินควบคุมแล้ว ควรออกจากพื้นที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด เพราะหากถังเสื่อมสภาพ ยังมีความเสี่ยง เกิดการระเบิดได้

นอกจาก ต้องรู้เรื่องวิธีปิดวาลว์แล้ว จริง ๆ ตามช่องต่าง ๆ ของตัวรถ ก็เป็นทางออกฉุกเฉินได้ ตามกราฟิกที่นำเสนออยู่นี้ จะเห็นว่า ตรงประตูด้านหน้า และประตูตรงกลาง หรือ สังเกตตรงบันไดกลาง ด้านในทั้ง 2 จุด ก็มีปุ่มสวิตซ์ ข้างประตูไว้ให้กด หรือ ตรงจุดประตูฉุกเฉิน ด้านข้างท้ายตัวรถ ก็มีปุ่มไว้ให้กด และอีกจุดตรงช่องระบาย บนหลังคาก็สามารถใช้เป็นทางออกได้ด้วย

ศาลฯ ไม่ให้ประกันคนขับรถบัสทัศนศึกษา
ต่อกันที่การดำเนินคดีกับ นายสมาน คนขับรถบัสคันที่เกิดเหตุ หลังนำตัวฝากขัง ศาลจังหวัดธัญบุรี ก็ไม่ให้ประกันตัว โดยชี้ว่าหลังเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือเด็กถือเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับ ตำรวจและญาติคนเสียชีวิต ก็คัดค้านการประกัน ตัวเพราะเกรงว่าหลบหนี จึงยกคำร้อง ก่อนคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำธัญบุรีทันที

นายสมาน ให้การกับตำรวจว่าขับรถด้วยความเร็ว 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พอมาถึงจุดเกิดเหตุ รถเกิดเสียหลักคล้ายตกหลุม แล้วยางระเบิด ถุงลมแตก จากนั้นล้อหน้าเกิดดึงไปทางขวา ทำให้ไปเฉี่ยวชนกับรถเบนซ์ ตนพยายามบังคับรถ แต่ไม่อยู่จนตัวรถไปครูดกับแบริเออร์ด้านขวา

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark