จับวัดรอยเขี้ยว หมาพันธุ์ผสมร็อตไวเลอร์-พิตบูล รุมกัดคนตาย หูหาย
เร่งไขปริศนาชายเสียชีวิตในบ้าน ร่างมีรอยสัตว์กัดแทะ ใบหูหายไปทั้ง 2 ข้าง สงสัยหมาจรจัด พันธุ์ไทยผสมกับร็อตไวเลอร์ พันธุ์ไทยผสมพิตบูล รุมกัด ประสานปศุสัตว์ ยิงลูกดอกยาสลบ จับวัดรอยเขี้ยวตรงกับบาดแผลหรือไม่
ความคืบหน้ากรณีพบศพชายเสียชีวิตจมกองเลือดบนบ้านริมทุ่งนา โดยสภาพศพมีรอยเขี้ยวสัตว์กัด ใบหูหายไปทั้ง 2 ข้าง วานนี้ (26 ก.ย.67) ญาติได้ติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศล ที่บ้านใน ต.คำไฮใหญ่ อ.ดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี เมื่อร่างเคลื่อนกลับมาถึงบ้าน พระสงฆ์และชาวบ้าน ทำพิธีนำร่างเข้าบ้าน และใช้ก้านบอนทาที่ริมฝีปากของศพ ตามความเชื่อของชาวบ้าน เพื่อให้ผู้ตายไปตามเอาตัวคนที่ทำร้ายมาลงโทษ ก่อนจะนำร่างบรรจุใส่โลง
ทางด้านตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุบลราชธานี ได้ลงตรวจที่เกิดเหตุเป็นรอบที่ 2 พร้อมยิงลูกดอกยาสลบใส่สุนัขจรจัดเพศเมีย 2 ตัว เป็นสุนัขพันธุ์ไทยผสมกับพันธุ์ร็อตไวเลอร์ และพันธุ์ไทยผสมกับพันธุ์พิตบูล ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นสัตว์ที่เข้าไปทำร้ายนายเวชชัย จนเสียชีวิต เบื้องต้น สุนัขทั้ง 2 ตัว บริเวณหน้าผาก มีบาดแผลยาวประมาณ 5 เซนติเมตร มีเลือดซึม บริเวณเท้าหน้าคล้ายรอยเลือดจาง ๆติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการถ่ายรูปและวัดความยาวของเขี้ยวเพื่อไปประกอบบาดแผลที่ศพว่าเข้ากันได้หรือไม่
นางอุทัยวรรณ อายุ 87 ปี แม่ของนายเวชชัย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.00 น. ตนเดินเข้าไปบ้านเพื่อเก็บดอกไม้ไปไหว้พระธาตุ เมื่อถึงไปบ้านพบเลือดกระจายอยู่ข้างบ้าน จึงได้ตะโกนถามลูกชาย ว่าทำไมไม่เก็บบ้านปล่อยให้สุนัขคาบถุงเลือด เปรอะเปื้อนไปทั่วบ้าน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ ตนจึงเดินไปเปิดประตูหลังบ้านพบสุนัขตัวสีครีม พันธุ์ไทยผสมพันธุ์พิตบูลวิ่งสวนออกมาจากในบ้าน เมื่อเข้าไปในบ้านเห็นลูกชายนอนคว่ำหน้า เรียกอย่างไรก็ไม่ตอบ ครั้งแรกคิดว่าลูกชายถูกไฟดูดจึงได้เรียกเพื่อนบ้านและลูกสาวมาดู จึงทราบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว
น.ส.เบ็ญจวรรณ อายุ 41 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า พี่ชายนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ในบ้าน มีบาดแผลที่บริเวณศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ และหูทั้ง 2 ข้างหายไป เดิมคิดว่าถูกทำร้ายจนเสียชีวิต โดยสงสัยแก๊งที่มาร่วมวงดื่มสุรา เพราะพี่ชายไม่มีศัตรูกับใคร หลังเสียชีวิตกลิ่นเลือดอาจทำให้สุนัขจรจัดทั้ง 2 ตัวเข้ามากัดแทะบาดแผลและกัดหูจนขาด แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้ปรักปรำหรือกล่าวหาใคร
ด้านนายสุรพงษ์ เสนาใหญ่ อายุ 43 ปี หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์สำนักงานปศุสัตว์อุบลราชธานี เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งว่ามีคนเสียชีวิตในบ้านหลังงที่เกิดเหตุ สภาพศพมีร่องรอยบาดแผลลักษณะคล้ายสัตว์กัดแทะ จึงเกิดการสงสัยว่าจะมีสัตว์ร้ายหรือสุนัขทำให้เสียชีวิตหรือไม่ จากการตรวจสอบในพื้นที่พบว่ามีสุนัขจรจัดที่ผู้ตายไม่ได้เลี้ยง 2 ตัว ได้รับการประสานให้มาจับสุนัขทั้ง 2 ตัว ตรวจวัดขนาดฟัน ว่าสอดคล้องกับบาดแผลที่อยู่บนศพหรือไม่
ส่วนผู้ตายเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทยไว้ 5 ตัว นิสัยไม่ดุร้าย ต่างจากสุนัขจรจัดซึ่งเป็นพันธุ์ผสมกับสายพันธุ์ดุร้าย ล่าสุดตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากการถูกทำร้ายจากสุนัขหรือคน