เศร้า! ชาวบ้านยังจมโคลน ไม่มีเงิน ไม่มีงาน

เช้านี้ที่หมอชิต - การฟื้นฟูอำเภอแม่สายเข้าสู่วันที่ 17 แล้ว แต่หลายชุมชนยังจมโคลน อย่างชาวบ้านคนนี้ที่ยังใช้ชีวิตยากลำบากอยู่บนกองโคลนสูงท่วม

เศร้า! ชาวบ้านยังจมโคลน ไม่มีเงิน ไม่มีงาน
เสียงสะท้อนของชาวบ้านคนหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลแม่สาย ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านท่ามกลางโคลนสูง ไม่มีเงิน ไม่มีงาน แต่เขายังรอคอยอย่างมีความหวังว่าจะมีคนเข้ามาช่วยเหลือ ช่วยเก็บดินโคลนออกจากบ้าน   

ดรามา ทีมงานรถแบ็กโฮถูกไล่ออกนอกพื้นที่ 
ขณะที่ชาวบ้านรอคอยการช่วยเหลือ เมื่อวานนี้กลับมีเรื่องดรามาเกิดขึ้น จากกรณีเฟซบุ๊ก "สันชัย อะไหล่แบ็กโฮ" โพสต์ว่า เสียใจด้วยพ่อแม่พี่น้องถ้ำผาจมด้วยครับ ทีมงานคุณภาพทั้งหมด 8 คัน ถูกสั่งย้ายออกจากถ้ำผมจมวันนี้ เราอาจทำดีเกินไป หรืออาจทำไม่ถูกใจใคร เราจึงตัดสินใจย้ายออกทั้งหมดเมื่อคุณไม่เอาเรา เรามาลุยเพราะเรามาด้วยใจ ใจเราสูงกว่า ใจเราเด็ดกว่า ย้ายไปช่วยพี่น้องที่ยังต้องการเราอีกเยอะ ขัดขากันเข้าไปตามสบาย ลุยต่อที่อื่นมีอีกเยอะรอได้เลย เราจะแสดงให้ดูว่าคุณภาพเป็นอย่างไร เราตั้งใจไป ใจเราใหญ่กว่าหน้าตาชัดเจน

ต่อมาทีมข่าวสอบถาม นายธนาสมบัติ เปรมปรี หัวหน้าคุมงานของนายสันชัย เจ้าของโพสต์ มาจากจังหวัดสิงห์บุรี บอกว่า เห็นจากข่าวจึงอยากมาช่วยน้ำท่วมแม่สาย จึงเดินทางมาวันที่ 23 กันยายน เมื่อมาถึงได้พบกับทีมงานชลประทาน ทีมงานชลประทานจึงให้ไปพื้นที่ที่ชุมชนถ้ำผาจม โดยทางชลประทานเติมน้ำมันให้ทั้งหมด

กระทั่งวันที่ 25 กันยายน ขณะกำลังทำงานตักดินโคลนตามขั้นตอน มีทีมงานทางชลประทานมาเตือนว่าทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่ถูกหลัก แล้วบอกให้พวกตนออกจากหน้างาน ตนเองรู้สึกเสียใจ เพราะทำงานด้วยใจ ไม่คิดค่าแรง บางครั้งหน่วยงานต้องรับฟังข้อมูลจากตนเองบ้าง ฐานะที่ทำงานเป็น 10 ปี รู้สภาพการทำงานอย่างดี 

ขณะที่ออกจากหน้างาน พบว่ามีชาวบ้านตามมาขอให้ทีมงาน นายธนาสมบัติ ไปช่วยตักโคลนออกจากบ้านทั้งน้ำตา ทางทีมงานจึงอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจว่า ขณะนี้กำลังย้ายออกจากพื้นที่ชุมชนถ้ำผาจมแล้ว

ขณะเดียวกันทางชลประทาน ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเป็นชลประทานจากอำเภอแม่สาย หรือ ส่วนของจังหวัดเชียงราย ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า ถ้าหากเขาเป็นจิตอาสา ควรไม่ต้องรับค่าจ้าง ทางเราได้จ้างรถนายสันชัย จ้างรถแบ็กโฮ ขนาด 5 ตัน 2 คัน คันละ 2,000 บาท จ้างรถแบ็กโฮเล็ก 2 คัน คันละ 1,000 บาท และรถบรรทุกอีก 2 คัน คันละ 2,000 บาท ซึ่งการจ้างนายสันชัยเป็นการจ้างชั่วคราว เพื่อรอรถชลประทานจากส่วนกลางเข้ามาเสริมอีก 7 คัน หากรถส่วนกลางมาถึง จะยกเลิกการว่าจ้าง ซึ่งพอรถมาถึงเราจำเป็นต้องยกเลิกตามสัญญา

ล่าสุดมีข้อมูลจากทางทีมงานแบ็กโฮว่า พวกเขาไม่ได้รับเงินตามที่ทางชลประทานกล่าวอ้างเลย

ดรามา รถบรรทุกช่วยน้ำท่วมถูกจับ
ส่วนอีกประเด็นดรามาตามมาติด ๆ กรณี เพจ "กันจอมพลัง ช่วยสู้" รถหัวลากบรรทุกแบ็กโฮกลับจากช่วยน้ำท่วมเชียงราย โดนจับคาด่านชั่งน้ำหนักพะเยา ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว 320,000 บาท และมีคดีติดตัว เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 เวลา 11.15 น.

หลังโพสต์นี้ถูกแชร์ ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า มาช่วยคนก็ใช่จะทำผิดกฎหมายได้ต่อมาทางกันจอมพลัง ออกมาโต้ทันควันว่า ผมอยู่หน้างานเค้าไม่เกี่ยงวิธีหรอกครับอะไรช่วยชาวบ้านได้เอาหมด แต่ถ้าใครอยากเคร่งครัดกฎหมายเวลานี้มาจับผมด้วย ผมกับพวกผมเอาเจ็ทสกีขับไปบนถนนเพื่อช่วยชาวบ้านมาไม่รู้กี่ชีวิต ผมพังรั้วพังประตูทำลายของเพื่อเข้าไปช่วยชีวิตคนมาแล้ว 4 คน

เจ้าหน้าที่แจงดรามา จับรถบรรทุก
ด้านเจ้าหน้าที่สถานีตรวจสอบน้ำหนักพะเยา แจงดรามา ที่จับเพราะรถบรรทุกไม่มีหนังสือขออำนวยความสะดวก และรถน้ำหนักเกินถึง 2,800 กิโลกรัม ถ้าไม่ดำเนินการจะมีกฎหมายไว้ทำไม เพราะฉะนั้น เมื่อคนไปช่วยเหลือน้ำท่วมต้องมีหนังสือเอกสารมาแจ้งขออำนวยความสะดวก แล้วที่สำคัญ ตอนรถบรรทุกลากรถแบ็กโฮขึ้นไปใช้หัวลากอีกหัว แต่ขากลับใช้อีกหัวลาก ซึ่งตัวหัวลากขากลับมันใหญ่กว่าน้ำหนักมันเพิ่มขึ้น ถ้าไม่ทำตามหน้าที่ ป.ป.ช. ก็แจ้งเอาผิดตามมาตรา 157 เจ้าหน้าที่ก็จะถูกไล่ออก

ฝันดี-ฝันเด่น ลุยโคลนช่วยชาวบ้าน
ส่วนทีมงาน ฝันดี-ฝันเด่น และทีมจิตอาสา ยังคงปักหลักช่วยชาวบ้านพื้นที่ ตำบลแม่สาย ตักดินโคลนออกจากบ้านชาวบ้านที่ยังคงต้องการความช่วยเหลือ อย่างชาวบ้านคนนี้ ต้องทำความสะอาดบ้านตัวเองเพียงลำพังมาแล้ว 4 วัน แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ทางทีมงานฝันดี-ฝันเด่นจึงเข้าช่วยเหลือทำความสะอาด เพื่อให้เข้าพักอาศัยในบ้านได้ 

ฝุ่นกระจาย หลังโคลนแห้ง
ความคืบหน้าการฟื้นฟูที่อำเภอแม่สาย เจ้าหน้าที่ยังกำลังระดมเร่งฟื้นฟู นำดินโคลนออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเส้นทางสัญจร และพื้นที่สาธารณะ แต่ช่วงที่รถบรรทุกวิ่งขนดินโคลนออกมา ก็ทำให้ดินโคลนตกตามถนน ปัญหาที่ตามมาก็คือ ปัญหาของฝุ่นฟุ้งกระจายค่อนข้างหนาส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน ชาวบ้านอยากให้เจ้าหน้าที่หมุนเวียนมาฉีดน้ำบ่อยขึ้น เพื่อไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย

ส่วนการฟื้นฟูบ้านเรือนชาวบ้านชุมชนถ้ำผาจม ฟื้นฟูเสร็จแล้ว 121 หลังคาเรือน จากทั้งหมด 150 หลังคาเรือน ส่วนที่เหลือน่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะแล้วเสร็จ

ขอบคุณภาพจาก : Facebook ฝันดี - ฝันเด่น ใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน