น้ำตกทีลอซู ดินไหลทับจุดชมวิวน้ำตก
เช้านี้ที่หมอชิต - จากสถานการณ์ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำตกทีลอซู ที่อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เกิดดินพังไหลลงมาทับจุดชมวิว
น้ำตกทีลอซู ดินไหลทับจุดชมวิวน้ำตก
จุดที่เราทำลูกศรชี้ เป็นจุดที่เกิดดินไหล ตรงน้ำตกทีลอซูชั้น 4 ลงมาด้านล่าง ทำให้ลานชมน้ำตก จุดถ่ายรูป ได้รับความเสียหายทั้งหมด หลังเกิดเหตุทาง นายอำนาจ ฟองชัย หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก เผยว่า หลังเกิดเหตุ ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ได้ตรวจสอบความเสียหาย และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นจะปิดการเข้าชมน้ำตกทีลอซูจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติเพื่อป้องกันอันตรายกับนักท่องเที่ยว
ส่วนที่สุโขทัย ไปดูนาทีชีวิต กู้ภัยเร่งช่วยเหลือชาวบ้านติดค้างในบ้าน หลังแม่น้ำยมล้นทะลักท่วมพื้นที่ อำเภอศรีสำโรง
กู้ภัยฯ ลุยน้ำช่วยชาวบ้านติดค้างในบ้าน
ภาพนาทีชีวิต ขณะหน่วยกู้ภัยเมตตาธรรม จังหวัดกาฬสินธุ์ ออกปฏิบัติการช่วยเหลืออพยพชาวบ้านที่ติดค้างในบ้านเรือน หลังพนังแม่น้ำยมขาด ทำให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นที่หมู่ 6 บ้านท่าช้าง ตำบลทับผึ้ง อำเภอศรีสำโรง
ขณะช่วยเหลือทางอาสาไม่สามารถนำเรือเข้าไปได้ จึงใช้เชือกมัดทำแนวเดินฝ่ากระแสน้ำเชี่ยว จากหน้าบ้านผู้ประสบภัย ช่วยชาวบ้านสองคนมายังฝั่งถนน ระยะทางประมาณ 100 เมตร โดยอาสากู้ภัยเดินประคองมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย
น้ำยมซัดพนังกั้นน้ำพัง ท่วมพื้นที่ 2 ตำบล
นอกจากนี้ที่ หมู่ 6 ตำบลวังใหญ่ และ หมู่ 8 ตำบลวังทอง 2 พื้นที่ติดกัน อำเภอศรีสำโรง น้ำยมซัดกระสอบทราย และบิกแบ็กขาดเป็นทางยาวอีกรอบบริเวณใต้สะพานสิริปัญญารัต ทำให้น้ำไหลแรงท่วมพื้นที่ทางการเกษตร และ บ้านเรือนประชาชนทั้ง 2 ตำบล
ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ระดับน้ำในช่วงนี้มีระดับเพิ่มขึ้นอีกเป็นเมตร อีกทั้งจุดที่แตกเก่าก็ขยายกว้างขึ้นเกรงว่า ถ้าจุดนี้ถูกน้ำกัดเซาะไปเรื่อย ๆ ก็อาจจะทำให้นำไหลทะลักเข้ามาทางฝั่งหมู่ 8 ตำบลวังทอง ก็เป็นไปได้
สำหรับมวลน้ำจาก แพร่ ต่อมาที่สุโขทัย หรือฝนที่ตกทางตอนล่างของจังหวัดน่าน แล้วไม่ได้ลงเขื่อนสิริกิตติ์ จะทยอยถึงจังหวัดนครสวรรค์ และหน้าเขื่อนเจ้าพระยา สูงสุดพร้อม ๆ กันทั้งหมด และในช่วงวันที่ 30 กันยายน ถึงต้นเดือนตุลาคม จะมีฝนตกในพื้นที่ภาคกลาง จาก 2 เหตุการณ์นี้ ทำให้เขื่อนเจ้าพระยาต้องเพิ่มการระบายน้ำ เป็นไปได้ว่าอาจมีการระบายน้ำ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่กรมชลประทาน จะควบคุมไม่ให้เกิน และระบายน้ำแบบขั้นบันได
ซึ่งคาดการณ์ว่าการระบายน้ำแบบขั้นบันไดนี้ จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ต่ำนอกคันกั้นน้ำหลายจังหวัด เช่น หากระบายน้ำ 700-2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อาจทำให้น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ เช่น ชุมชนริมคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง และ จังหวัดพระนรศรีอยุธยา คือ ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่
นอกจากนี้ทางกรมชลประทาน เตือน 10 จังหวัดภาคกลาง และ กทม. เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ประกอบด้วย อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร
ชาวบ้าน อ.เสนา ถูกน้ำท่วมรอบที่ 3
ขณะที่ ชาวบ้านอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รีบขนของอพยพอีกครั้ง หลังเจอน้ำล้นตลิ่ง เข้าท่วมเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ เมื่อวานที่ผ่านมา ในพื้นที่บริเวณ หมู่ 9 ตำบลกระทุ่ม อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบปริมาณน้ำจากแม่น้ำน้อยล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต้องเร่งขนของอพยพขึ้นที่สูง และนับเป็นการท่วมรอบที่ 3 ภายในปีนี้
นางสาวถดาภรณ์ เล่าว่า บ้านของตนปลูกติดกับริมแม่น้ำน้อย เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งที่ผ่านมานั้นมีระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร กระทั่งเขื่อนเจ้าพระยามีการปรับการระบายน้ำลดลง ทำให้ระดับน้ำลดลงจนบ้านของเห็นพื้นปูน
กระทั่งเมื่อวันที่ 24 กันยายนช่วงเย็น ทางเขื่อนเจ้าพระยามีการปรับเปลี่ยนการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เป็น 1,136 ลูกบาศก์ต่อวินาที ทำให้น้ำจากแม่น้ำน้อยไหลเข้าพื้นบ้านอย่างรวดเร็ว ความสูงประมาณ 20 เซนติเมตร
โดยทางเทศบาลได้มีการประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนเก็บของขึ้นที่สูง เนื่องจากประกาศแจ้งเตือนว่าจะมีการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเจ้าพระยาถึง 1500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งชาวบ้านแถวนี้ก็มีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่ทีแรกแล้ว ซึ่งยอมรับว่า ชาวบ้านแถวนี้จะถูกน้ำท่วมทุกปี อย่างน้อยไม่ต่ำกว่าสามเดือน
ภาพรวมน้ำท่วมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ยังพื้นที่ถูกท่วมอยู่ 6 อำเภอ 64 ตำบล 287 หมู่บ้าน 6,798 ครัวเรือน ได้แก่ อำเภอผักไห่, อำเภอเสนา, อำเภอบางบาล, อำเภอบางไทร, อำเภอพระนครศรีอยุธยา และอำเภอบางปะอิน