พายุโซนร้อนหมายเลข 4 จ่อขึ้นฝั่งเวียดนาม

ข่าวภาคค่ำ - พายุโซนร้อนซูลิก ขึ้นฝั่งแล้วที่ประเทศเวียดนามตอนกลาง และจะเคลื่อนมาถึงภาคอีสานของไทย กลางดึกคืนนี้ ขณะที่หลายจังหวัดทางภาคอีสานเตรียมรับมือ ไปจนถึงวันที่ 23 กันยายนนี้

พายุโซนร้อนหมายเลข 4 จ่อขึ้นฝั่งเวียดนาม
อัปเดตทิศทางพายุโซนร้อนซูลิก ขึ้นฝั่งแล้วที่เมืองกว๋างจิ บริเวณตอนกลางของประเทศเวียดนาม โดยศูนย์กลางของพายุ อยู่ห่างจากจังหวัดนครพนม ประมาณ 250 กิโลเมตร คาดว่ากลางดึกคืนนี้ พายุจะเคลื่อนตัวมาถึงอีสานตอนบนของไทย และอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน โดย 2 จังหวัดแรก ที่จะเป็นกันชนด่านหน้า คือ นครพนม และสกลนคร จากนั้นพายุจะค่อย ๆ อ่อนกำลังลงอีก ทำให้ฝนตกกระจายทั่วไทย

ทางการเวียดนามเตรียมพร้อมรับมือพายุโซนร้อนหมายเลข 4 หรือ ซูลิก ที่เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดกว๋างจิ (Quang Tri) แล้ว ในช่วงเวลา 16.00 น. วันนี้ ด้วยความเร็วลมสูงสุดประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกหนักตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันพรุ่งนี้ ในพื้นที่ตอนกลาง รวมทั้ง เมืองดานัง และอาจเกิดน้ำท่วมในระดับอันตราย

ขณะที่ สนามบินด่งเฮ้ย (Dong Hoi) ในจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) ทางตอนเหนือของเวียดนาม ได้ประกาศปิดบริการชั่วคราว ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ไปจนถึง 22.00 น.คืนนี้

พร่องน้ำเขื่อนน้ำอูน รับพายุฝนตกหนัก
แหล่งน้ำขนาดใหญ่ทั้งเขื่อนน้ำอูน อำเภอพังโคน และ ปริมาณน้ำในหนองหาร อำเภอเมืองสกลนคร ตอนนี้ มีปริมาณน้ำกักเก็บทั้งสองแห่ง ประมาณ 80 เปอร์เซนต์ เกือบเต็มความจุกักเก็บ ทำให้สำนักงานชลประทานสกลนคร ต้องเร่งระบายน้ำจากเขื่อนน้ำอูน วันละ 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ลงลำน้ำอูน และ ระบายน้ำหนองหาร วันละเกือบ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ลงลำน้ำก่ำ ไปลงแม่น้ำโขง ในพื้นที่ 2 อำเภอ ของจังหวัดนครพนม เพื่อรองรับมวลน้ำจากฝนตกหนัก อิทธิพลของพายุลูกใหม่

ลำน้ำสาขาแม่น้ำโขง เอ่อท่วมขยายวงกว้าง
พื้นที่จังหวัดนครพนม เป็นพื้นที่รับน้ำจากจังหวัดสกลนคร ตอนนี้แม้แม่น้ำโขงจะลดลง แต่ก่อนหน้านี้ก็แม่น้ำโขงหนุนเข้าลำน้ำสาขาทั้งลำน้ำสงครามและลำน้ำอูน ทำให้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ จนแทบมองไม่เห็นว่า ส่วนไหนเป็นลำน้ำ เห็นแต่เพียงประตูระบายน้ำ น้ำท่วมขยายวงกว้างกว่า 80,000 ไร่

พื้นที่เลี้ยงสัตว์ถูกน้ำท่วม กลายเป็นเกาะกลางน้ำ ชาวบ้านตำบลท่าบ่อสงคราม อำเภอศรีสงคราม ต้องอพยพโค-กระบือ ขึ้นไปอยู่บนที่สูง และเริ่มแคลนขาดแคลนหญ้าเลี้ยงสัตว์ ทำให้ปศุสัตว์ต้องนำฟางอัดก้อน ไปแจกจ่าย พื้นที่ประสบอุทกภัย 

พร่องน้ำอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง วันละ 2 ล้าน ลบ.ม.
เช่นเดียวกับอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 16 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดเลย ตอนนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บ 96 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 77 เปอร์เซนต์ อาทิ อ่างเก็บน้ำน้ำหมาน อำเภอเมืองเลย และอ่างเก็บน้ำเลย อำเภอภูหลวง มีการระบายน้ำออกเฉลี่ยวันละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ทางจังหวัดสั่งการให้เตรียมรับมือ แจ้งเตือนฝนตกปานกลางถึงหนักมาก ในช่วงวันที่ 20 - 23 กันยายน นี้

เร่งจัดการดินโคลน ชุมชนถ้ำผาจม
ขึ้นไปที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เทศบาลตำบลเวียงพางคำ ร่วมกับกำลังทหาร นำรถแบ็กโฮเข้าไปขุดตักดินโคลนที่ตกค้างอยู่ภายในพื้นที่ชุมชนถ้ำผาจม รวมทั้งเขตเทศบาลตำบลแม่สาย อาทิ ชุมชนไม้ลุงขน เกาะทราย และเหมืองแดง ตอนนี้เคลียร์ดินโคลนออกจากถนนสายหลัก และในพื้นที่ได้แล้วประมาณ 40 เปอร์เซนต์ คาดว่าภายใน 2 วันนี้ ดินโคลนบนถนนสายสำคัญ ๆ จะแล้วเสร็จจนรถสามารถวิ่งได้ ส่วนตามซอกซอยต่าง ๆ จะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

มท.3 ให้กำลังใจฟื้นฟูน้ำท่วม ม.พะเยา
ที่จังหวัดพะเยา นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตาม ให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย จากน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบริเวณพื้นที่หอพักและบ้านเรือนชาวบ้าน บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ตอนนี้น้ำลดลงแล้ว โดยเน้นให้ดูแลเรื่องระบบสาธารณูปโภค โดยเฉพาะน้ำประปา และให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมกับหน่วยทหาร ช่วยกันฟื้นฟูพื้นที่ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและน้อง ๆ นิสิต ที่ได้รับผลกระทบ

ช่อง7HD ร่วมกับกองทัพไทย เปิดรับบริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ โดยวันนี้มี นักแสดง ผู้ประกาศข่าว พนักงานช่อง 7HD และประชาชนที่พักอาศัยอยู่ใกล้เคียงช่อง 7HD นำสิ่งของมาร่วมบริจาค สำหรับประชาชน หรือหน่วยงานที่สนใจ อยากร่วมบริจาคของ สามารถมาได้ที่ ช่อง 7HD โดยจุดรับบริจาคจะเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 15 ตุลาคม

สามารถบริจาคสิ่งของจำเป็น อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง เครื่องปรุงรส น้ำดื่ม ยาสามัญประจำบ้าน ยากันยุง เทียนไข ไฟแช็ก ไม้ขีดไฟ ผ้าอนามัย ถุงดำ ไฟฉาย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น

สามารถบริจาคได้ทุกวันที่ ช่อง 7HD ตั้งแต่วันนี้ถึง วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 09.00 - 17.00 น. สอบถามข้อมูลได้ที่ 0 2495 7777 กด 0