ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

อายุ 29 ปี ติดเชื้อแบคทีเรียไมโคพลาสมา ป่วยหนักกว่าโควิด/ไข้หวัดใหญ่


หมอมนูญเจอเคสผู้ป่วยหญิงอายุ 29 ปี ไม่มีประวัติโรคประจำตัว ติดเชื้อแบคทีเรียไมโคพลาสมา นอน รพ. 9 วัน ไข้สูง 40.5 องศา หนักกว่าตอนป่วยโควิด/ไข้ไหวัดใหญ่

วันนี้ (9 ก.ย.67) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เชี่ยวชาญด้านโรคระบบการหายใจและผู้ป่วยหนัก ยกเคสผู้ป่วยหญิงอายุ 29 ปี ให้ประวัติว่าก่อนมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เริ่มมีไข้สูง 40.5 องศาเซลเซียส ปวดหัว ปวดตัว อ่อนเพลีย และไอมาก คนไข้มาโรงพยาบาล วันที่ 25 ส.ค.67 มีเหนื่อยบ้าง กินอาหารได้น้อย ไม่เจ็บคอ ไม่มีน้ำมูก ปกติผู้ป่วยท่านี้ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ไม่มีโรคประจำตัว เคยป่วยเป็นโรคโควิด 2 ครั้ง และไข้หวัดใหญ่ 1 ครั้ง เมื่อปีที่แล้ว

ผลตรวจร่างกาย มีไข้สูง 40.5 องศาเซลเซียส ระดับออกซิเจน 98 % ฟังปอดปกติ เอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาวที่ปอดข้างขวาด้านล่าง  แยงจมูกส่งตรวจ PCR รหัสพันธุกรรม 22 สายพันธุ์ พบเชื้อแบคทีเรีย Mycoplasma pneumoniae เจาะเลือดตรวจพบว่า เม็ดเลือดขาวปกติ

แพทย์วินิจฉัยว่า ปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ไมโคพลาสมา Mycoplasma pneumonia ให้ยาปฏิชีวนะชนิดกิน  azithromycin และ moxifloxacin ผู้ป่วยดีขึ้นช้า ๆ ไข้ลอยอยู่ 5 วัน กว่าไข้จะลง ต้องให้น้ำเกลือ เพราะกินอาหารได้น้อยมาก ต่อมาอาการไอค่อย ๆ ลดลง ไม่เจ็บหน้าอก ไม่เหนื่อย แพทย์ติดตาม 9 วันต่อมา เอกซเรย์ปอดฝ้าขาวด้านล่างดีขึ้นมาก

“ผู้ป่วยรายนี้อายุยังน้อย ปกติแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว แต่เมื่อติดเชื้อ Mycoplasma ครั้งนี้นอนรักษาใน รพ. 9 วัน อาการหนักกว่าตอนป่วยเป็นโรคโควิดและไข้หวัดใหญ่เมื่อปีที่แล้ว”

หมอมนูญให้ข้อมูลด้วยว่า เชื้อไมโคพลาสมาเป็นแบคทีเรียขนาดเล็ก มีอยู่ในธรรมชาติ สามารถติดต่อจากคนสู่คน เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและล่าง พบได้ในเด็กโตและผู้ใหญ่ บางคนทำให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบและปอดอักเสบอย่างผู้ป่วยรายนี้ โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน รักษาหายด้วยยาปฏิชีวนะ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark