ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

สพฐ. ติดตาม 2 เคสครูทำโทษนักเรียน กำชับ ห้ามลงโทษไม่เหมาะสม

สพฐ. ติดตาม 2 เคสครูลงโทษนักเรียน กำชับ ห้ามลงโทษไม่เหมาะสม ย้ำความปลอดภัยเด็กสำคัญ หากพบเห็นลงโทษเกินเกตุ แจ้งสายด่วน ศธ. 1579

วันนี้ (3 ก.ย.67) นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.  เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีข้อห่วงใยและสั่งการให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีครูลงโทษนักเรียนไม่เหมาะสมที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. และอีกกรณีที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 29 ส.ค.67 ตนพร้อมด้วยทีมงานศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวนับแต่วันที่เกิดเหตุ โดยสั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และรายงานผลให้ สพฐ. ทราบแล้ว

โดยเหตุการณ์ที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏเป็นข่าวว่า ครูลงโทษนักเรียนที่แข่งกีฬาแพ้ด้วยการตบหูและตีหลัง ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 ได้มอบหมายกลุ่มกฎหมายและคดี ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงและลงพื้นที่สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นได้ความว่า ผู้ที่กระทำไม่ใช่ครูตามข่าว แต่เป็นผู้ช่วยฝึกซ้อมเด็กนักเรียนด้านกีฬา ซึ่งเป็นจิตอาสาเข้ามาช่วยฝึกซ้อมกีฬาให้นักเรียน โดยไม่ได้รับค่าตอบแทน และจากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันว่าไม่ได้มีความรุนแรงตามที่ปรากฏในข่าว โดยทางโรงเรียนได้เชิญผู้ปกครองนักเรียนเข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ปกครองได้รับทราบเรื่องแล้ว และไม่ติดใจเอาความ พร้อมยืนยันให้ครูทำหน้าที่ต่อไป ขณะที่ทางโรงเรียนก็จะเข้าไปดูแลติดตามเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับนักเรียนด้วย ทั้งนี้ ทางเขตพื้นที่ฯ มีคำสั่งให้ครูคนดังกล่าวมาปฏิบัติราชการที่ สพป.สุรินทร์ เขต 2 ในระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จ และเมื่อมีการสรุปผลการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว จะรายงานให้ สพฐ. ทราบต่อไป

ส่วนที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งปรากฏเป็นข่าวว่า ครูลงโทษนักเรียนโดยใช้ไม้พลองตี เนื่องจากนักเรียนเล่นกัน ทางผู้ปกครองได้เข้าไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ และนักเรียนได้ตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพบว่ากล้ามเนื้ออักเสบบริเวณไหล่ขวาและหลัง ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและประสานงานกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยโรงเรียนได้เชิญผู้ปกครองเข้ามาพูดคุยพร้อมกับครูคนดังกล่าว ได้มีการอธิบาย พูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และทั้งสองฝ่ายได้ตกลงยอมความกันเรียบร้อยแล้ว

โดยคุณครูได้ทำการขอโทษนักเรียนและผู้ปกครอง และรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ขณะที่ผู้ปกครองก็ไม่ติดใจเอาความ ซึ่งทางโรงเรียนจะดำเนินการดูแลเยียวยาให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง พร้อมช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของนักเรียน และจะเข้าไปดูแลติดตาม เยี่ยมบ้านนักเรียนเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับนักเรียนต่อไป ทั้งนี้ ทางโรงเรียนได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงด้วยแล้ว และจะสรุปผลรายงานให้เขตพื้นที่ฯ และ สพฐ. ทราบต่อไป

“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ สพฐ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยกำชับเขตพื้นที่ฯ ให้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริง ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม และเร่งรัดผลการสืบสวนให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งกำชับโรงเรียนทุกแห่งว่าหากมีการลงโทษนักเรียนเกิดขึ้น ให้ครูปฏิบัติตามแนวปฏิบัติว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ.2548 และหนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ ศธ 04009/2556 ลงวันที่ 30 ธ.ค.2551 อย่างเคร่งครัด และมอบหมายให้นักจิตวิทยาเขตพื้นที่ฯ ประเมินสภาพจิตใจนักเรียนที่ถูกลงโทษ และให้ขวัญกำลังใจนักเรียนและผู้ปกครองนักเรียน ทั้งนี้ หากประชาชนหรือผู้ปกครองพบเห็นครูลงโทษนักเรียนไม่เหมาะสม สามารถแจ้งเหตุมายัง สายด่วน ศธ. 1579 ได้ตลอดเวลา หรือแจ้ง ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. โทร. 0 2123 8789 เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือต่อไป” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark