กก.บห. เพื่อไทย มีมติยืนตาม ที่ประชุม สส.ไม่ร่วมรัฐบาลกับ พปชร.

กก.บห. เพื่อไทย มีมติยืนตาม ที่ประชุม สส.ไม่ร่วมรัฐบาลกับ พปชร. เตรียมเทียบเชิญ “ปชป.-ก๊วนธรรมนัส” ร่วมรัฐบาล เร็ว ๆ นี้ พร้อมขอวิงวอนนักร้องให้โอกาส นายกฯ-รัฐบาลได้ทำงาน ไม่เช่นนั้นประเทศเดินหน้าไม่ได้

วันนี้ (27 ส.ค.67) เวลา 18.00 น. ภายหลังเสร็จสิ้น การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย หลังที่ประชุม สส. พรรคเพื่อไทยมีมติไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ โดยที่ประชุมมีการใช้เวลาหารือไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนที่นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย จะเดินทางลงจากอาคารชินวัตร 3 มาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค มีมติไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ตามที่ประชุม สส.เสนอมา

ส่วนเรื่องของการทาบทามพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมือง เข้ามาร่วมรัฐบาลในอนาคต ขอให้เป็นขั้นตอนต่อไป เช่น กลุ่มของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งจะต้องมีการพูดคุย เพราะที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด

เช่นเดียวกันกับพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคที่จะต้องหาเสียงในสภาฯ ให้ได้มากที่สุด สร้างเสถียรภาพให้กับรัฐบาล โดยการกระบวนการทั้งหมดจะเริ่มเดินหน้าทันทีในวันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.67)

เมื่อถามว่ากลุ่มของร้อยเอกธรรมนัส และพรรคประชาธิปัตย์จะมีการจัดสรรโควตารัฐมนตรีให้หรือไม่ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยระบุว่า ก็จะต้องมีการพูดคุยกัน แต่อำนาจการแต่งตั้งรัฐมนตรีขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตามเร็ว ๆ นี้ จะต้องมีการทำหนังสือเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลตามที่ หัวหน้าหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าต้องมีการเชิญอย่างเป็นทางการ ซึ่งจากนั้นพรรคประชาธิปัตย์ก็จะมีการหารือกับกรรมการบริหารพรรค พร้อมยืนยันว่าต้องเชิญทุกกลุ่มที่เห็นว่าสามารถร่วมงานกันได้

ส่วนจะรับมืออย่างไรหากมีนักร้อง ไปร้องนับจากนี้ นายสรวงศ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายที่จะต้องรับมือในเรื่องของการร้องเรียนเรื่องต่าง ๆ แต่ขอวิงวอนให้มีการทำงานเกิดขึ้นก่อน หากมีการทำอะไรผิดก็ค่อยไปร้องเรียน ไม่เช่นนั้นประเทศจะเดินต่อไปไม่ได้ จึงอยากขอโอกาสให้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้ทำงาน เพราะประเทศต้องเดินต่อไป เวลาที่ผ่านไปแต่ละวัน คือความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งของประเทศไทย และต่างประเทศ

นายสรวงศ์ ยืนยันว่า เรื่องของจริยธรรม รัฐบาลได้มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด แต่เรื่องของพรรคการเมืองต่าง ๆ ขอไม่ก้าวร่วง