เจ้าหน้าที่การบินผลักดันทั่วโลกแก้ปัญหาเครื่องบินตกหลุมอากาศ
วันนี้ (27 ส.ค. 67) เจ้าหน้าที่ด้านการบินจากประเทศต่าง ๆ ในเอเชียประสานเสียงผลักดันการดำเนินการในระดับโลกเพื่อลดการบาดเจ็บอันเนื่องมาจากเครื่องบินตกหลุมอากาศ ซึ่งเกิดขึ้นถี่และรุนแรงมากขึ้นในระยะหลังมานี้ โดยเรียกร้องให้มีปรับปรุงการพยากรณ์สภาพอากาศที่ประเทศต่าง ๆ สามารถแบ่งปันข้อมูลกันได้
ข้อมูลจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติ หรือ UN ระบุว่า แม้การเสียชีวิตจากเครื่องบินตกหลุมอากาศไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุ และผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า สภาพอากาศรุนแรงอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจทำให้เครื่องบินตกหลุมอากาศและนำไปสู่อุบัติเหตุมากขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เครื่องบินตกหลุมอากาศเป็นหนึ่งในหลายประเด็นที่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานกำกับดูแลการบินทั่วโลกหยิบยกขึ้นมาหารือในการประชุมด้านการเดินอากาศของ ICAO ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 26 ส.ค. ถึงวันที่ 6 ก.ย. นี้
โดยเอกสารการประชุมเผยว่า ประเทศต่าง ๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และสิงคโปร์ ต้องการให้เพิ่มประเด็นเครื่องบินตกหลุมอากาศเป็นหมวดหนึ่งในแผนความปลอดภัยการบินทั่วโลกประจำปี 2569 ของ ICAO ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงการประสานงานแบบเรียลไทม์เพื่อแบ่งปันข้อมูลสภาพอากาศระหว่างประเทศต่าง ๆ ขณะที่ปัจจุบัน บางประเทศในเอเชียกำลังเริ่มดำเนินการส่งข้อมูลในรูปแบบภาพเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้นสำหรับนักบิน จากปกติที่ส่งข้อมูลในรูปแบบข้อความ
ICAO ระบุว่า สมาชิก 193 ประเทศจะร่วมกันพิจารณาลงมติเกี่ยวกับเรื่องนี้ในการประชุมสมัชชา ICAO ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นเป็นประจำทุก 3 ปี โดยการประชุมครั้งถัดไปจะมีขึ้นในปีหน้า
ทั้งนี้ รายงานความปลอดภัยประจำปี 2567 ของ ICAO ระบุว่า การตกหลุมอากาศคิดเป็นประมาณ 40% ของอุบัติเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินพาณิชย์ขนาดใหญ่ในปีที่แล้ว และความกังวลเกี่ยวกับอุบัติเหตุเครื่องบินตกหลุมอากาศยิ่งเพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่เครื่องบินของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ321 ลอนดอน-สิงคโปร์ ตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บหลายสิบราย เมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา