ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

สาว 15 โดนรุมตบ เหตุไม่ยอมมีเซ็กซ์กับเพื่อนชาย

ป่าเถื่อน! สาว 15 โดนเพื่อนลวงไปขี่รถเล่น สุดท้ายพามาบ้านที่มีวัยรุ่นมั่วสุมนับสิบ ก่อนถูกรุมตบจนเลือดอาบ เหตุปฏิเสธมีเซ็กซ์กับเพื่อนชาย-แอบนินทา

จากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่คลิปหญิงสาวรายหนึ่งถูกเพื่อนสนิทกับพวกรุมกระหน่ำตบ เตะ อย่างเมามันจนหนำใจ ก่อนจะกักขังไว้ในบ้าน ไม่ยอมให้กลับบ้าน จนหญิงสาวแอบโทรศัพท์แจ้งผู้เป็นแม่กับน้าสาวให้มาช่วย กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เดินทางมาก่อนนำตัวออกจากบ้านหลังเกิดเหตุ พร้อมแนะนำให้ไปแจ้งความ แต่ทางผู้เสียหายไม่สะดวกต้องรีบพาลูกสาวและหลานสาวไปที่โรงพยาบาล ทำการรักษาอาการบาดแผลที่ถูกรุมทำร้ายในครั้งนี้ก่อน

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (20 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังห้องเช่าแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี และได้พบกับผู้เสียหาย คือน้องน้อย (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ที่ถูกทำร้ายตามที่ปรากฏในคลิป โดยน้องน้อย เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาตี 3 ของวันที่ 20 ส.ค. 67 เพื่อนสาวที่คบหากันแค่ 3 เดือน โดยรู้จักกันทางเฟซบุ๊กชื่อ เฟิร์ส ได้ทักมาหาตนเอง และชวนตนเองนั่งรถจักรยานยนต์ไปเที่ยว ก่อนพาไปหาเพื่อนอีกหลายคน ภายในซอยประชาชื่น 5 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี

โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น มีวัยรุ่นมั่วสุมกันนับ 10 คน โดยเฟิร์ส เพื่อนสาวตนเอง แนะนำตนให้รู้จักกับ 2 คนคือ แจงกับมิ้น (เฟิร์ส-แจง-มิ้น ผู้ก่อเหตุรุมทำร้ายในคลิป) ต่อมา เฟิร์ส ได้มากระซิบตนเองว่าให้ไปร่วมหลับนอนกับเพื่อนชายของเขาคือนายโฟล์ค อายุ 21 ปี ซึ่งตนเองได้ปฏิเสธไปและบอกว่าตนเองมีเพื่อนชายคนสนิทที่รู้ใจคบหากันอยู่แล้ว ซึ่งเฟิร์สเพื่อนตนเองก็บอกว่าโฟล์คเขาไม่ซีเรียส ไม่แคร์ ขอให้เขากับเพื่อนชายเล่นเซ็กซ์หมู่กับตนเอง ตนจึงกล่าวปฏิเสธไปอีก ทำให้เพื่อนสาวของตนคือเฟิร์ส แจง และมิ้น ไม่พอใจ หาว่าตนเองไม่ให้ความร่วมมือ อีกทั้งเฟิร์สยังมาต่อว่าตนเองว่าชอบเอาเรื่องของเขาไปแอบนินทาในกลุ่มเพื่อน ๆ

ช่วงนั้นเป็นเวลา 03.00 น. ตนเองจะขอกลับบ้าน แต่กลุ่มพวกเขาไม่พอใจและไม่ยอม ทั้งสามคนได้ตรงเข้ามาตบ เตะตนเองอย่างเมามันจนหนำใจ โดยมีเพื่อน ๆ ช่วยกันถ่ายคลิปเอาไว้ ตนเองได้อาศัยจังหวะที่พวกเขาเผลอ รีบโทรแจ้งผู้เป็นแม่และน้าให้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ทางแม่และน้าจึงได้รีบออกจาก จ.ปทุมธานี มาที่เกิดเหตุช่วงเวลาเกือบ 6 โมงเช้า พร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ มาช่วยเหลือนำตัวตนเองออกมาได้

น.ส.ศิราณี อายุ 35 ปี แม่ของน้องน้อย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองเห็นคลิปลูกสาวถูกทำร้ายร่างกายถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ไม่คิดว่าพวกเขาจะรุมทำร้ายลูกสาวตนเองได้ขนาดนี้ ตนเลี้ยงลูกมาตั้งแต่เล็กไม่เคยตีเลยแม้แต่ครั้งเดียว หลังตำรวจและตนพร้อมด้วยน้องสาวผู้เป็นน้า ช่วยเหลือน้องน้อย ออกมาได้ ก็รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลรักษาอาการ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำให้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ แต่ตนเองยังไม่สะดวกเพราะเป็นห่วงลูก จึงนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลก่อน ตนอยากถามถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุว่าทำไมถึงลงมือทำร้ายลูกตนเองแบบนี้ ตนรับไม่ได้จริง ๆ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตอนที่ตนเข้าไปช่วยเหลือลูกสาว ระหว่างที่ตนเองด่าทอกลุ่มผู้ก่อเหตุ เห็นมีชายสูงอายุในบ้านของกลุ่มผู้ก่อเหตุคือออกมายืนตะโกนด่าตนเองและไล่ให้ไปที่อื่น แทนที่จะช่วยเหลือ แต่กลับเข้าข้างคนทำความผิด

ด้าน น้าสาว เล่าว่า คืนเกิดเหตุหลานสาวได้ทักไลน์มาหาตนเอง พร้อมทั้งบอกว่าถูกทำร้ายร่างกายอยู่ภายในซอยประชาชื่น 5 ตนตกใจและเป็นห่วงมากจึงรีบแจ้งให้กับพี่สาว ซึ่งเป็นแม่ของน้องน้อย ทราบเรื่อง ก่อนจะรีบพากันขึ้นรถแท็กซี่ไปจุดเกิดเหตุที่บ้านหลังดังกล่าว และช่วยเหลือนำตัวหลานสาวออกมาได้ ตนเห็นบาดแผลตามร่างกายใบหน้าของหลานแล้ว รู้สึกตกใจเพราะเต็มไปด้วยเลือด รวมทั้งเสื้อที่ใส่อยู่ก็เปรอะเปื้อนเป็นรอยคราบเลือดเต็มไปหมด ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอย่างเต็มที่

ขณะที่ น้องน้อย ผู้เสียหาย เผยว่า สำหรับเฟิร์ส เพื่อนสาวรายนี้ที่รู้จักกันเพียงแค่ 3 เดือน ได้ทักเฟซบุ๊กมาขอเป็นเพื่อนตนเอง และยังมาอาศัยหลับนอนอยู่ที่บ้านของผู้เป็นน้าอยู่บ่อยครั้ง ตนเองหลงเชื่อไว้ใจ เขามาชวนไปนั่งรถจักรยานยนต์เล่น จึงได้ไปด้วย ไม่คิดว่าจะพามาที่เกิดเหตุ ไกลถึงในเขตพื้นที่ จ.นนทบุรี และมาเจอกลุ่มเพื่อนชาย-หญิง นับ 10 คน มั่วสุมกันอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ก่อนจะถูกทำร้าย ตนถูกชักชวนให้ร่วมหลับนอนกับนายโฟล์ค เมื่อปฏิเสธก็ถูกทำร้ายและรุมตบตี เตะ ตามร่างกายจิกกระชากผม ตอนนี้ตนเองรู้สึกเจ็บที่จมูกและตามลำตัวมาก หมอบอกว่าถ้ามีอาการบาดเจ็บอีกให้รีบมาหาหมอทันที คงต้องรอดูอาการว่าจะมีตรงไหนที่บอบช้ำและบาดเจ็บมาก เนื่องจากตอนนี้ยังระบมตามลำตัวโดยเฉพาะที่จมูกเจ็บมากที่สุด

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark