คลายปม อสส.สั่งไม่ฟ้อง พิชิต ชื่นบาน

เช้านี้ที่หมอชิต - จากกรณีที่มีข่าวว่า นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 มีส่วนเกี่ยวข้องในกับการสั่งไม่ฟ้องคดีถุงขนม 32 ล้าน ของนายพิชิต ชื่นบาน กับพวก ในสมัยที่ยังเป็นอัยการสูงสุด

ล่าสุดทีมโฆษกสำนักงาน เรื่องนี้ทางอัยการสูงสุด ได้ออกมาแถลงชี้แจงเรื่องดังกล่าวแล้วว่าไม่เป็นความจริง เพราะนายชัยเกษมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการข้อเท็จจริงแล้ว

โดย นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด บอกว่า คดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ปี 2551 สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม พร้อมความเห็นของพนักงานสอบสวนที่เสนอสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทุกรายอยู่ก่อนแล้ว

จากนั้นอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจพิจารณาสำนวน โดยไม่ได้มี "นายชัยเกษม" อยู่ในคณะ หลังตรวจสำนวนอย่างละเอียดแล้ว คณะทำงานอัยการฯ ก็มีความเห็นเช่นเดียวกับพนักงานสอบสวนคือ เห็นควรสั่งไม่ฟ้อง

ก่อนส่งให้รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา และอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา พิจารณาตามระเบียบ ซึ่งอธิบดีอัยการก็เห็นควรสั่งไม่ฟ้อง จึงเช่นกัน ก่อนจะทำความเห็นเสนอ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาสำนวนต่อ ซึ่งก็ยังคงเห็นควรสั่งไม่ฟ้องเช่นกัน ทำให้คดีสิ้นสุดตามกฎหมาย

ส่วนเหตุผลที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง นายพิชิตกับพวกด้วย ทีมโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด มองว่า หม่องหลวงธิติพงศ์ ชมพูนุช เจ้าหน้าที่ธุรการ ตำแหน่งนิติกร 5 ที่ได้รับถุงบรรจุเงิน 2 ล้านบาทนั้น ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดี และคำให้การในสำนวนก็ระบุว่า ถุงเงินที่นายธนา ตันศิริ ผู้ต้องหาคนที่ 3 นำมาให้นั้น ไม่ได้มีการพูด หรือสั่งว่าให้ทำอะไร หรือไปประสานกับผู้พิพากษาท่านใด เพื่อไม่ให้สั่งฟ้องคดีของนายทักษิณ

ดังนั้นแม้ว่า นายพิชิต ผู้ต้องหาที่ 1 จะเป็นทนายความของนายทักษิณและนายธนา เป็นผู้ประสานงานทางคดี แต่การนำเงินไปให้เจ้าหน้าที่ธุรการที่ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินคดี และไม่มีข้อเท็จจริงเชื่อมโยงไปถึงผู้พิพากษาคดีดังกล่าว พฤติกรรมของนายธนาจึงขาดองค์ประกอบความผิด และผู้ต้องหาที่เหลือจึงไม่มีความผิดไปด้วยเช่นกัน