ชายวัย 35 อ้างประชุมนิติฯ อยู่ดีๆ กำลังจะกลับบ้าน แต่ถูกรุมทำร้าย

ชายวัย 35 อ้างประชุมนิติฯ อยู่ดีๆ กำลังจะกลับบ้าน แต่ถูกรุมทำร้าย คาด ต้นเหตุเรื่องเลี้ยงไก่แจ้ 20 ตัวที่บ้าน แล้วเคยทำไก่หลุดไปพื้นที่ส่วนกลาง จนถูกตักเตือน

วันที่ 30 ก.ค.67 เวลา 13.00 น. ที่ สภ.บางบัวทอง ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายกำพล อายุ 35 ปี ผู้เสียหาย เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง พร้อมนำคลิปหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูเป็นคลิปเหตุการณ์ วันที่ 30 ก.ค.67 เวลาประมาณ 11.00 น.ขณะผู้เสียหายกำลังประชุมนิติฯหมู่บ้านในหมู่บ้านชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง โดยในคลิปขณะที่ นาย กำพล กำลังประชุมและจะเดินออกจากห้อง มีผู้ชายผมสั้น ไม่ทราบชื่อ ที่นั่งอยู่ใกล้ประตูทางออก ได้เข้ามาขวางไม่ให้นายกำพล ออกจากห้องพร้อมกับผลักด้านหลัง ก่อนที่จะลงมือชกนายกำพลที่หน้าจนทำให้ปากแตกและฟันหน้าหักเลือดกลบปาก หลังจากเกิดเรื่องทาง รปภ.ของหมู่บ้านได้พาผู้ก่อเหตุซ้อนท้ายรถจยย.หลบหนีไป

นาย กำพล เล่าว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมาตนได้รับหนังสือเชิญไปประชุมกับทางนิติฯ ของหมู่บ้านในวันที่ 30 ก.ค.67 แต่ตนไม่ทราบว่าเชิญไปเรื่องอะไร พอวันนี้ตนกับแฟนก็ได้เข้าไปนั่งในห้องของนิติฯหมู่บ้าน ก็ได้พูดคุยกับประธานหมู่บ้าน ยังพูดคุยกันไม่ถึง 10 นาที ตนเห็นว่าคุยไม่รู้เรื่องเลยลุกจะเดินออกจากห้อง แต่ผู้ชายคนที่สวมเสื้อลายสก๊อตแขนสั้น คิดว่าน่าจะเป็นหัวหน้า รปภ.นั่งอยู่ตรงประตูทางออกลุกขึ้นมาห้ามไม่ให้ตนออกจากห้อง และได้มีการผลักตนและชกเข้าที่บริเวณใบหน้าตามคลิปดังกล่าว ทำให้ตนบาดเจ็บปากแตกและฟันหน้าหลุด 1 ซี่ ต่อมาตนและแฟนได้เดินออกจากห้องมา เพื่อขอความช่วยเหลือจาก รปภ.หมู่บ้าน แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือตนเลย มีแต่พาผู้ก่อเหตุซ้อนท้ายรถจยย.หลบหนีออกจากหมู่บ้านไป

นาย กำพล เล่าเพิ่มเติมอีกว่า ที่บ้านตนเลี้ยงไก่แจ้ประมาณ 20 กว่าตัว เลี้ยงมาได้ 2 ปีแล้ว และไม่เคยมีปัญหากับเพื่อนบ้านคนไหน ไม่เคยมีเพื่อนบ้านเข้ามาพูดคุยหรือว่ากล่าวเรื่องที่ตนเลี้ยงไก่เลย แต่คาดว่าปัญหานี้น่าจะมาจากเมื่อประมาณเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ตนทำไก่หลุดไปที่สวนกลาง และถูกนิติฯเรียกเข้าไปตักเตือนซึ่งอาจจะทำให้ทางนิติไม่พอใจ หลังจากนั้นก็มีทางเจ้าหน้าที่ รปภ.ของหมู่บ้านเข้ามาวนดูที่บ้านบ่อยครั้ง บางทีดึกๆกลับบ้านมาตอนตี3 ก็มีรถจยย.ของ รปภ.ขี่ตามเข้ามาถึงบ้าน ตนก็งงว่าทำไมต้องตามดูถึงขนาดนี้ ทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกอึดอัดใจและไม่ปลอดภัย หลังเกิดเหตุตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความและจะดำเนินคดีตามกฏหมายจนถึงที่สุดจะไม่มีการยอมความใดๆทั้งสิ้น