แก๊งวัยรุ่นคู่อริ ไล่ยิงเด็กชายอายุ 14 ปี เสียชีวิต

สนามข่าว 7 สี - ที่ จังหวัดร้อยเอ็ด กลุ่มวัยรุ่นชวนกันขี่รถจักรยานยนต์เที่ยวกลางคืน บังเอิญไปเจอคู่อริยกพวกทำร้าย ก่อนบานปลาย มีเด็กชายอายุ 14 ปี ถูกยิงเข้าท้ายทอยเสียชีวิต ล่าสุด ตำรวจตามรวบมือปืนแล้ว พบอายุแค่ 13 ปี อ้างถูกหาเรื่องก่อน จึงกลับไปเอาปืนมายิงข่มขู่เท่านั้น

กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ เด็กชายบอส อายุ 14 ปี นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนมาเที่ยวกลางคืน บริเวณถนนสตรีทอาร์ต ในตัวเมืองร้อยเอ็ด เวลา 03.20 น. ของวันที่ 22 กรกฎาคม โดยมีเพื่อนอีก 5 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 3 คัน ตามหลังมาติด ๆ

เมื่อมาถึงสี่แยกวัดสระแก้ว เด็กชายบอส และเพื่อน ๆ ขี่รถมาเจอกลุ่มคู่อริ จึงพากันกลับรถขี่หนี แต่มีเพื่อนบางคนรถล้ม ต้องทิ้งรถ วิ่งเข้าไปหลบในปั๊มก๊าซ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด และจะเห็นกลุ่มคู่อริถือมีดยาววิ่งตามมาไล่ฟันรถ

ขณะที่ เด็กชายบอส เหมือนจะหนีรอด แต่ไม่ใช่ เพราะมีคู่อริขี่รถตามไปไล่ยิง กระสุนเจาะทะลุหมวกกันน็อกเข้าท้ายทอย 1 นัด เพื่อนที่เป็นคนขี่รถต้องใช้มือข้างหนึ่งดึงตัวไม่ให้ตกรถ ระหว่างพาไปหาเพื่อนที่รวมกลุ่มรออยู่ในปั๊มน้ำมัน ห่างจากที่เกิดเหตุ 2 กิโลเมตร จากนั้นรีบโทร.แจ้งกู้ภัยช่วยนำตัว เด็กชายบอส ส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายเสียชีวิต

หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ด เรียกเพื่อนผู้เสียชีวิต 10 คน มาให้ปากคำ ทราบว่าระหว่างขี่รถเที่ยวเล่นกัน เจอกลุ่มผู้ก่อเหตุถือมีด มีท่าทางคล้ายจะหาเรื่อง จึงพากันขี่รถไปทางอื่น และจอดรอดูสถานการณ์จนแน่ใจว่าไม่น่าจะมีเรื่องกัน จากนั้นขี่รถมุ่งหน้ากลับบ้าน แต่ดันมาเจอกลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยยืนยันไม่เคยรู้จัก หรือมีเรื่องกันมาก่อน

ด้าน ยายของผู้เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า หลานชายไม่เคยมีเรื่องกับใคร แค่ออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนตามประสาวัยรุ่น ที่ผ่านมาหลานไม่เคยเกเร และยังคิดหารายได้เลี้ยงตัวเองด้วยการซื้อรองเท้ามือสองมาขายออนไลน์

ล่าสุด ตำรวจตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 4 คน เป็นเยาวชน อายุ 14 ปี 3 คน และอายุ 13 ปี 1 คน (มือปืนคือเยาวชนอายุ 13 ปี) ให้การอ้างว่า ถูกกลุ่มผู้เสียชีวิตไล่ยิงก่อน จึงกลับไปเอาอาวุธปืน พร้อมตามพรรคพวกไปเอาคืน โดยตนเองใช้ปืนยิงใส่กลุ่มผู้เสียชีวิตเพื่อจะข่มขู่เท่านั้น แต่ปืนสะบัดกระสุนลูกปลายไปถูกผู้เสียชีวิต หลังสอบปากคำ ตำรวจคุมตัวผู้ก่อเหตุไปชี้จุดทิ้งมีดและอาวุธปืน บริเวณหนองน้ำสาธารณะท้ายหมู่บ้าน ตำบลหนองแวง จากนั้นนำตัวกลับมาโรงพัก เพื่อรอสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำอีกครั้ง เบื้องต้น จะแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น