ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

จำคุก 5 ปี แยม-อดีตนักแสดง ส่วนสามีโดนคุก 20 ปี เปิดเว็บพนัน-ฟอกเงิน

ศาลอาญา พิพากษา จำคุก 5 ปี แยม-อดีตนักแสดง ส่วน ไฮโซอั้ม-สามี เจอคุก 20 ปี เปิดเว็บพนัน-ฟอกเงิน ขณะที่จำเลยอื่นรับโทษลดหลั่นไป ยกฟ้องจำเลยที่ 9

วันนี้ (18 ก.ค.67) ที่ห้องพิจารณา 912 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีเว็บพนัน และฟอกเงิน หมายเลขดำ อ.669/2566 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเชษฐ์ชัย, นายภูมิพัฒน์ หรืออั้ม สามีแยม ธมลพรรณ์ อดีตนักแสดงละครจักร ๆ วงศ์ ๆ, นางสุดใจ, นายนฤพล, นายอาทิตย์ หรือบัง, นายปกรณ์, น.ส.ธมลพรรณ์ หรือแยม, นายฐิติวัฒน์, นายปิตุพงศ์, นายวรวุฒน์, นายกิตติภพ และ น.ส.พลอยณิศา สิงแก้ว  เป็นจำเลยที่ 1-12 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันเพื่อประสงค์แห่งการค้า ทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งรูปภาพ ภาพโฆษณา รูปถ่ายฯ หรือสิ่งอื่นใดอันลามกฯ, ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อฯ โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันฯ, สมคบฯ เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ และร่วมกันฟอกเงิน

อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดพวกจำเลยสรุปว่า ระหว่างวันที่ 15 พ.ค.- 1 ก.ย.65 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1-8 กับพวก ได้บังอาจร่วมกันฟอกเงิน โดยการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยนายภูวดล พวกของจำเลย ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้โอนเงินเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนัน ในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, ร่วมกันเข้าเล่นหรือร่วมเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 อันเป็นความผิดมูลฐานตามความผิดเกี่ยวกับการเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนัน โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีวงเงินในการกระทำความผิดรวมกัน มีมูลค่าตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน และเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 

โดยโอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารชื่อบัญชี พวกของจำเลย ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้องไปยังบัญชีเงินฝากธนาคาร ชื่อบัญชีนายปกรณ์ จำเลยที่ 6 จำนวน 46 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 39.6 ล้านบาท อันเป็นการโอน รับโอนหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน หรือเพื่ออำพรางลักษณะที่แท้จริง การได้มาแหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใด ๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อันเป็นการร่วมกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายสมดังเจตนาของจำเลยทั้งแปดกับพวกตามที่ได้สมคบกันดังกล่าว

ต่อมาระหว่างวันที่ 18 พ.ค. - 22 ก.ย.65 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1-8 กับพวกได้ร่วมกันฟอกเงิน โดยการแบ่งหน้าที่กันทำ  จำเลยที่ 1 ได้เบิกถอนเงินซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพนัน จากบัญชีเงินฝากธนาคารชื่อบัญชี นายปกรณ์ จำเลยที่ 6 จำนวน 25 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 35.4 ล้านบาทเศษ อันเป็นการโอน รับโอนหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน หรือเพื่ออำพรางลักษณะที่แท้จริง เหตุเกิดที่แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร, แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อยกรุงเทพมหานคร, ตำบลอ้อมน้อย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร และที่อื่นเกี่ยวพันกัน  ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา4, 4 ทวิ, 5, 6 และ 12 พ.ร.บ.การพนัน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2485 มาตรา 3 พ.ร.บ.การพนัน (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2504 มาตรา 3 และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 5 ฯประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ,83, 91 และ 287

พวกจำเลยให้การปฏิเสธ เบิกตัวจำเลยที่ 1-8 จากเรือนจำ ส่วนจำเลยที่ 9-12 ได้รับการประกันตัว แต่วันนี้ มีเฉพาะจำเลยที่ 9-10 มาศาล ส่วนจำเลยที่ 11-12 หลบหนีไม่มาศาล

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบหักล้างแล้ว พิพากษาจำคุก จำเลยที่ 1 รวม 12 ปี 21 เดือน, นายภูมิพัฒน์ จำเลยที่ 2 จำคุก 20 ปี, จำเลยที่ 3-6 จำคุกคนละ 2 ปี 4 เดือน, น.ส.ธมลพรรณ์ หรือแยม จำเลยที่ 7 จำคุก 5 ปี,      จำเลยที่ 8 จำคุกรวม 12 ปี 18 เดือน, จำเลยที่ 9 พิพากษายกฟ้อง, จำเลยที่ 10 จำคุก 4 เดือน ปรับ 8 พันบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญามีกำหนด 2 ปี

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark