ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

พี่สาวเหยื่อคดีชิงทอง ที่เชียงใหม่ รับศพน้องชายประกอบพิธีทางศาสนาค่ำนี้


พี่สาวเหยื่อคดีชิงทอง รับศพน้องชายประกอบพิธีทางศาสนาค่ำนี้ สุดเศร้าสูญเสียเสาหลักอีกคนของครอบครัว ไม่ติดที่พ่อแม่ผู้ต้องหาจะเข้าขอขมาศพและญาติ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการกระทำส่วนบุคคล

8 กรกฎาคม 2567 ความคืบหน้าคดีชิงทองในส่วนของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ที่ถูกลวงไปสังหารโหดเพียงเพื่อที่ต้องการจะใช้รถยนต์ในการก่อเหตุชิงทอง แต่ต้องมาเสียชีวิตทั้งๆ ที่ประกอบอาชีพสุจริตเลี้ยงดูครองครัว โดหลังจากที่เมื่อวานนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพของว่าที่ร้อยโทสุเทพ ชัยนันตา อายุ 48 ปี มายังแผนกนิติเวศน์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เพื่อทำการชันสูตรศพ ประกอบสำนวนคดี และในวันนี้ทางญาติของผู้ตายได้มาติดต่อขอรับศพ โดยนางกฤษณา กาเผือก อายุ 56 ปีพี่สาวของผู้ตาย พร้อมญาติได้เดินทางมาดำเนินการเรื่องของเอกสาร ซึ่งจะต้องใช้เวลา และล่าสุดต้องไปแจ้งตายรับใบมรณะบัตรที่เทศบาลตำบลสุเทพก่อนที่จะนำเอกสารมายืนรับศพ โดยทางเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปยืนยันรางของผู้ตายก่อน

นางกฤษณา กาเผือก พี่สาวผู้ตายเปิดเผยว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่าน้องชายคนเดียว และเป็นอีกหนึ่งเสาหลักของครอบครัว ที่ ต้องแยกทางกับภรรยา และลูกชายวัย 15 ปีที่ต้องอยู่กับภรรยาที่จังหวัดระยอง เพื่อมาทำงานหาเงิน และดูแลป้าที่ป่วยติดเตียง และแม่ที่มีอาการป่วยเรื้อรัง ทางญาติต่างก็รู้สึกช็อก และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งน้องชายต้องมาจากไปก่อนวัยอันควรกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผู้ก่อเหตุไม่ได้สนใจว่าจะเป็นใครก่อเหตุเพียงเพื่อมุ่งหวังจะเอารถยนต์ของน้องชายไปก่อเหตุเท่านั้น และตอนนี้ทางอดีตภรรยา กับลูกชายทราบข่าวแล้วก็เสียใจและจะเดินทางมาร่วมงานศพในวันพรุ่งนี้ ( 10 ก.ค.67 ) ซึ่งก่อนหน้านี้น้องชายเพิ่งไปเที่ยวหาลูกชายที่จังหวัดระยองมา และกลับมาทำงาน ปกติจะเป็นคนที่มีนิสัยร่าเริงชอบพุดคุย ช่วยเหลือผู้อื่น และขยันทำมาหาเงินเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว และส่งเสียลูกชาย และส่วนใหญ่จะจอดรถพักหลับนอนตามปั๊มน้ำมัน เพื่อที่จะสะดวกต่อการขับรถโดยสารบริการผ่านแอปพลิเคชัน แต่โชคร้ายมากที่ต้องมาเจอเหตุการณ์นี้ ซึ่งแทบจะไม่มีวี่แววของการจะจากไปเลย ปกติแม่มักจะเป็นห่วงน้องชายเรื่องขับรถให้ระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุ ตอนนี้แม่ทราบข่าวร้ายก็ยังรับรู้ได้บ้างแล้วในตอนนี้

ต่อจากนี้ก็จะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดในอำเภอแม่แตง ส่วนเรื่องที่ทางฝั่งพ่อและแม่ของผู้กอเหตุ มีความประสงค์จะมาขอขมาศพผู้ตาย และญาตินั้นก็ไม่ได้ติดใจหรือไม่สะดวกใจแต่อย่างใด ซึ่งก็มองว่าพ่อแม่ของผู้ก่อเหตุนั้นไม่ได้ในส่วนร่วมกับการก่อเหตุ และมองว่าเป็นคนละคนกันและไม่มีผลกระทบกับคดีความ ส่วนผู้ต้องหานั้นทางญาติก็ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับความผิดที่ร้ายแรงที่ก่อขึ้น

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark