เลือก สว.ได้ไปต่อ ศาลฯ วินิจฉัยไม่ขัด รธน.
เช้านี้ที่หมอชิต - การเลือก สว. ได้ไปต่อไม่ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ 26 มิถุนายน เลือกระดับประเทศ แต่อีก 2 คดีลุ้นกันต่อกับการส่งเอกสารเพิ่มเติมอีก ไม่เกินกลางเดือนกรกฎาคม
เลือก สว.ได้ไปต่อ ศาลฯ วินิจฉัยไม่ขัด รธน.
มาดูคดีแรกกันก่อนกับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หลังมีการยื่นศาลปกครองส่งคำร้อง ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ หรือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 36, มาตรา 40, มาตรา 41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่
โดยล่าสุด (18 มิ.ย.) ศาลฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ วินิจฉัยว่า พ.ร.ป.ฉบับดังกล่าว ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 ทำให้การเลือก สว. เดินหน้าต่อซึ่งจะมีการเลือกระดับประเทศ ในวันที่ 26 มิถุนายนนี้
ส่วนคดี สว.40 คนยื่นถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพราะแต่งตั้งบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ศาลฯ ให้หน่วยงาน หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง จัดทำความเห็นและจัดส่งสำเนาเอกสารมายื่นภายใน 15 วัน เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยกำหนดนัดพิจารณาต่อ 10 กรกฎาคมนี้
เลขาธิการ ครม.พยานบุคคล คดี เศรษฐา-ตั้ง รมต.
และที่ผ่านมา นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายให้ดู เรื่องถอดถอนนายกรัฐมนตรี บอกเช่นกันว่า ส่งพยานบุคคลเพิ่มอีก 1 คน คือ นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้ศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นบุคคลที่รู้กระบวนการทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เรื่องพฤติกรรมในอดีตของรัฐมนตรี ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง ขอไปอธิบายในศาล ส่วนผลจะออกมาเร็วหรือช้า ยังไม่ทราบ แต่ไม่ใช่ภายใน 3-7 วันนี้ และพยานบุคคลเพียงคนเดียวที่ถูกส่งชื่อให้ศาลฯ ยืนยันว่า ทำตามขั้นตอน
พรรคก้าวไกล คาดหวัง พยานบุคคลไต่สวนสาธารณะ
อีกคดีที่เล่นเอา พรรคก้าวไกล ยังต้องลุ้นต่อ จากการยื่นยุบพรรค ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคก้าวไกล เนื่องจากมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ และอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯ ศาลฯ กำหนดพิจารณาต่อในวันที่ 3 กรกฎาคม และให้คู่กรณีเข้ามาตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 9 กรกฎาคม
ทำให้แกนนำพรรค ทั้งนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค คาดหวังพยานบุคคลที่ส่งชื่อไป จำนวน 10 คน จะมีโอกาสให้การไต่สวนต่อสาธารณะ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่จะได้พิจารณาข้อต่อสู้ และเหตุผลต่าง ๆ เกี่ยวกับคดีนี้
