พี่โหดฆ่าน้องลากศพลงบ่อ โมโหทำต้นมะละกอตาย
เช้านี้ที่หมอชิต - ต้นมะละกอตายเป็นเหตุ พี่โมโหคว้าขาโต๊ะกระหน่ำตีหัวน้องชาย ก่อนลากลงบ่อน้ำเสียชีวิต
ขาโต๊ะยาว 1 ฟุต เปื้อนคราบเลือด คือ อาวุธที่นายวิสูตร อายุ 74 ปี ใช้กระหน่ำตีใบหน้าและศีรษะน้องชาย ชื่อนายเล็ก เหตุเกิดในบ้านพัก ซอยกรุงธนบุรี 6 แยก 9 แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพ
ตำรวจ สน.สำเหร่ เข้าตรวจสอบพบผู้ก่อเหตุ ยืนรอในสภาพตื่นตระหนกลนลาน เนื้อตัวเปื้อนเลือด มีบาดแผลถูกมีดฟันแขนซ้าย 2 แผล
เมื่อสอบถามถึงน้องชาย ทางผู้ก่อเหตุปฏิเสธไม่มี แต่ตำรวจสังเกตเห็นผ้าใบปูอยู่ที่พื้นและคลุมบ่อน้ำกว้างประมาณ 1 เมตร 50 เซนติเมตร ลักษณะผิดปกติจึงเปิดดูพบกองเลือดจำนวนมาก และเจอมีดทำครัวเปือนเลือด 1 เล่ม รวมทั้งขาโต๊ะ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ภายในบ่อน้ำพบร่างน้องชายของผู้ก่อเหตุ นอนคุดคู้อยู่ในน้ำลึก 1 เมตร จึงได้ช่วยยกร่างน้องชายขึ้นมา แต่ปรากฏว่าเสียชีวิตแล้ว
ผู้ก่อเหตุ รับสารภาพว่า ได้ใช้ขาโต๊ะที่ทำจากไม้ฟาดบริเวณใบหน้า และศีรษะน้องชายจำนวนหลายครั้ง แล้วลากร่างน้องชายโยนลงบ่อน้ำ ส่วนสาเหตุมาจากโกรธแค้นน้องชายแย่งที่ทำกิน ซึ่งตนปลูกพืชผักสวนครัว แต่น้องชายกลับนำเศษขวดเศษขยะไปคัดแยกในพื้นที่ จนพืชผักเสียหาย โดยเฉพาะต้นมะละกอ เคยทะเลาะกันหลายครั้งแต่น้องชายไม่ยอมเลิกพฤติกรรมดังกล่าว
ก่อนเกิดเหตุ ก็ทะเลาะกันเรื่องน้องชายแอบมาถอนต้นไม้ โดยน้องนำมีดออกมาฟันตนก่อน ด้วยความที่เมื่อวานอากาศร้อนมาก ทำให้บันดาลโทสะก่อเหตุ
ด้านเพื่อนบ้าน ที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ที่ดินผืนนี้อดีตเจ้านายของผู้เสียชีวิต และให้ผู้เสียชีวิตมาอยู่เฝ้าดูแล ระหว่างนี้ผู้เสียชีวิตหาเลี้ยงตัวเองด้วยการเก็บขยะขาย ผ่านไปปีเศษ ผู้ก่อเหตุเกษียณงาน ผู้เสียชีวิตจึงชวนมาอยู่ด้วย และแบ่งพื้นที่ให้ทำการเกษตร ปลูกผัก ขุดบ่อ ซึ่งผักสวนครัวเจริญเติบโตงอกงามดี ผู้ก่อเหตุจึงเก็บไปขายตลาด ขณะที่ผู้เสียชีวิตเก็บขยะมาวางทับต้นไม้ของพี่ชายจนเสียหาย มีปากเสียงกันหลายครั้ง
ก่อนเกิดเหตุ ทั้งคู่มีปากเสียงกัน แต่ไม่ได้สนใจ สักพักได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงเดินไปดู พบผู้ก่อเหตุกำลังกระหน่ำตีผู้เสียชีวิตอย่างโกรธแค้นจนแน่นิ่ง จากนั้นลากแขนผู้เสียชีวิตไปทางบ่อน้ำ แล้วถีบหัวลงไปแช่น้ำประมาณ 2-3 นาที ก่อนดึงขึ้นมาดูจนแน่ใจว่าเสียชีวิตแล้ว ก็โยนลงบ่ออีกครั้ง แล้วนำผ้าใบมาปิดคลุม