รองเต่า ลั่นวาจา ตรวจสอบส่วยตัวท็อป
เช้าข่าว 7 สี - มาตามนัด "ทนายตั้ม" หอบหลักฐานใส่ซองจดหมายสีน้ำตาล มีทั้งเส้นทางการเงิน ข้อมูลหน่วยงานรับส่วยไปยื่นให้ "รองเต่า" ตรวจสอบเส้นทางการเงินต้องสงสัย ชัดเจนเมื่อไรค่อยแจ้งความเป็นคดี ส่วน "รองเต่า" ลั่นวาจา ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูห้องขัง
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" มาพร้อมเอกสารในซองสีน้ำตาล ภายในมีหลักฐานที่แฉ ที่คราวนี้ไม่ได้ปกปิดข้อมูลเหมือนที่ใช้ในการแถลงข่าว มายื่นให้กับมือ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ รองเต่า
ตอนยื่นช่วงแรก รองเต่า อธิบายคร่าว ๆ ก่อนว่า เดี๋ยวหลังรับเรื่องไปแล้ว จะทำอะไรต่อบ้าง พอดีกับที่ ทนายตั้ม กังวลห่วงว่า ตำรวจจะมีเวลาตรวจสอบจำกัด จึงขอเป็นเพียงการยื่นให้ตรวจสอบข้อมูลการกระทำผิดไปก่อน หากตรวจสอบเสร็จแล้ว ค่อยเรียกมาแจ้งความเอาผิดอีกทีก็ไม่สาย
รองเต่า รับปากว่า พร้อมจะดำเนินการให้ พร้อมกับให้ความมั่นใจด้วยว่า ตนเองมีอุดมการณ์ในการทำคดี ทำงานแบบไม่สนเรื่องการเติบโตในหน้าที่การงานอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องที่ทนายความของ ผบ.ตร. จะไปยื่นฟ้อง ทนายตั้ม บ่ายวันนี้ ก็ยืนยันว่าไม่หนักใจ เพราะเคยถูกทนายคนดังกล่าวฟ้องมาแล้ว 6 คดี ที่ผ่านมาก็รอดหมด
พร้อมกับเอ่ยชื่อ อัจฉริยะ ว่า "เอาแบบนี้ไหม มาจับมือช่วยกันแฉเรื่องส่วยจะดีกว่า ถ้าตัดสินใจทำตนก็พร้อมจะลืมเรื่องเก่าทั้งหมด"
ส่วนเรื่องของ บิ๊กโจ๊ก มีข้อมูลยืนยันว่า ตำรวจได้ดำเนินการออกหมายครั้งที่ 3 แล้ว เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา โดยคราวนี้จะเป็นการนำหมายเรียกไปมอบให้กับ บิ๊กโจ๊ก โดยตรง
มีกำหนดเรียกเข้าพบในวันที่ 1 เมษายน ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 หากไม่มาอีก คณะพนักงานสอบสวน จะดำเนินการขอศาลออกหมายจับต่อไป
ส่วนเรื่องที่มีกระแสข่าวว่า จะมีการโอนสำนวนคดีกลับไปให้ตำรวจนั้น มีรายงานข่าวจากทาง ป.ป.ช. ยืนยันว่า เรื่องคดีที่ บิ๊กโจ๊ก เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีเว็บฯ พนันออนไลน์ จะไม่มีการโอนเรื่องกลับไปให้ตำรวจ พร้อมบอกว่า ต้องแยกเรื่องออกจากกัน หากเป็นเรื่องเอกชน ไปเปิดบ่อนออนไลน์ แล้วไปได้เงินมา มีการฟอกเงิน คดีนี้จะเป็นตำรวจดำเนินการ แต่หากเป็นการกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไปรับเงินจากพนันออนไลน์ ก็ต้องเป็น ป.ป.ช. ดำเนินการ