DSI เตรียมประชุม ส่วย เนื้อหมูเถื่อน บ่ายนี้

ห้องข่าวภาคเที่ยง - บ่ายโมงวันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ DSI จะไปหารือและรับฟังข้อมูลจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เกี่ยวข้องมูลการดำเนินการการปราบปรามคดีเนื้อหมูเถื่อนที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ ซึ่งประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ คือเรื่องที่มีการเปิดข้อมูลเอกสารการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ ที่น่าจะทำมานานหลายปี จะมีการตรวจสอบเรื่องนี้กันอย่างไร

โดยข้อมูลเอกสารที่ว่านี้ มาจากการเข้าตรวจค้น บริษัท พีซี ฟูด เซนเตอร์ และ บริษัทในเครือ ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบการในเขตปลอดอากร หรือ "ฟรีโซน" ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อำเภอบางบัวทอง และอำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ที่ได้เข้าตรวจค้นไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

พันตำรวจตรี ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน คดีเนื้อหมูเถื่อน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เปิดเผยว่า หลักฐานสำคัญที่ตรวจยึดได้ เป็นข้อมูลการบันทึกว่ามีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการอนุมัติ "นำเข้า-ส่งออก" สินค้า โดยเอกสารที่มีส่วนใหญ่เป็นบันทึกภายในขององค์กร มีจำนวนค่อนข้างมาก ต้องใช้เวลาตรวจสอบยืนยันว่า ว่ามีการส่งจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่รัฐจริงหรือไม่ ใครบ้างที่ได้รับเงินไป ซึ่งเอกสารที่พบย้อนหลังไปอีกหลายปี ทำให้ต้องใช้เวลาตรวจสอบอีกระยะถึงจะมีความชัดเจน เท่าที่พอบอกได้ ยังคงเกี่ยวข้องกับคดีนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อน 10,000 ตู้ ที่กำลังทำอยู่ และในช่วงบ่ายวันนี้ ที่ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ DSI จะประชุมหารือ และรับฟังข้อมูลจาก สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เกี่ยวข้องมูลการดำเนินการการปราบปรามคดีเนื้อหมูเถื่อน ก็จะมีการนำรายละเอียดเรื่องนี้มาหารือกันในที่ประชุมด้วย จากนั้นจะแถลงความคืบหน้าให้ได้ทราบกันต่อไป

ส่วนบรรยากาศที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งแต่ช่วงเช้า ทีมข่าวเราไปรอสังเกตุการณ์ หลังจากที่เมื่อวาน (4 ก.พ.) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและตำรวจ สน.นางเลิ้ง เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นบริเวณชั้น 2 อาคารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (3 ก.พ.) ซึ่งจุดที่เกิดเหตุเป็นโซนห้องทำงานของนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยห้องต้นเพลิงถูกระบุว่าเป็นห้องเตรียมอาหาร และลุกลามไปยังห้องของคณะทำงานของนายไชยา ซึ่งมีเอกสารสำคัญเก็บอยู่เป็นจำนวนมาก 

ซึ่งวันทำงานวันแรกของข้าราชการในกระทรวงฯ หลังเกิดเหตุดังกล่าว เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เผยว่ายังคงมีการทำงานตามปกติ แต่มีการตรวจบัตรประจำตัวพนักงานอย่างเข้มงวด ห้ามคนนอกเข้าโดยเด็ดขาด หากจำเป็นที่จะต้องเข้าไปด้านในจริง ๆ จะต้องแลกบัตรประจำตัวประชาชนก่อน และห้ามเข้าไปยุ่งในพื้นที่จุดเกิดเหตุ รวมถึงได้มีการนำเทปกั้นพื้นที่มากั้นบริเวณหน้าอาคารเพื่อห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออกโดยเด็ดขาด ทั้งนี้หากมีความจำเป็นที่จะต้องติดต่องานด้านใน สามารถเข้า-ออกได้ที่ประตู 1 ฝั่งถนนราชดำเนินเท่านั้น ส่วนประตู 2 และ 3 ได้มีการปิดทำการชั่วคราว