แม่ร่ำไห้ผูกแขนรับขวัญแรงงานไทยกลับบ้าน ลั่นไม่ไปอีกแล้ว จ.บุรีรัมย์

เช้านี้ที่หมอชิต - หลายครอบครัว ออกมายืนยันว่าจะไม่ให้คนที่ตัวเองรักกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกแล้ว แม้จะให้ค่าจ้างมากเท่าไรก็ตาม ขณะที่จังหวัดบุรีรัมย์ คุณแม่ร่ำไห้ ผูกแขนรับขวัญลูกชาย หลังจากรอดตัวกลับมาบ้านได้

แม่ร่ำไห้ผูกแขนรับขวัญแรงงานไทยกลับบ้าน ลั่นไม่ไปอีกแล้ว จ.บุรีรัมย์
นายนิสัน คล้ายคลึง อายุ 46 ปี แรงงานไทยในอิสราเอล เข้าไหว้แม่ที่อ้อมอก พร้อมให้แม่ผูกแขนรับขวัญทั้งน้ำตา หลังจากนายนิสัน คล้ายคลึง อายุ 46 ปี แรงงานไทยในอิสราเอล หลังเดินทางมาจากประเทศอิสราเอล กลับถึงเมืองไทยเมื่อวันที่ 13ตุลาคม โดยเมื่อวาน มีญาติ ๆ นายอำเภอชำนิ พร้อมผู้นำท้องถิ่นมาทำพิธีผูกแขนรับขวัญให้จำนวนมาก ที่บ้านพัก ตำบลโคกสนวน อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์

นายนิสัน เล่าว่า ไปเป็นแรงงานเกษตรได้ 5 ปี ที่ผ่านมามีการสู้รบกันบ้างแต่ไม่เป็นอันตรายใด ๆ แต่ปีนี้หนักที่สุด เพราะกลุ่มฮามาส กราดยิงโหดเหี้ยมไม่เลือกหน้า ต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดหลายครั้ง หลังประสานกับสถานทูตไม่นาน ก็มีทหารมาช่วยพากลับไทย ยอมรับว่านั่งเครื่องบินกลับเมืองไทยยังผวา ฝันว่ามีขีปนาวุธพุ่งเข้าใส่ การกลับบ้านครั้งนี้เหมือนเกิดใหม่ จะขออยู่บ้านกับลูกเมีย จะไม่บินไปไหนอีกแล้ว แม้จะให้ค่าแรงสูงเท่าไรก็ไม่ไป

เมียแรงงานไทยเศร้า ผัวหายตัวนาน 8 วัน ไม่รู้ชะตากรรม จ.ศรีสะเกษ
ส่วนนางสาวทิพวัลย์ พลดง อายุ 34 ปี ภรรยาของนายมงคล อายุ 38 ปี แรงงานไทยในอิสราเอล นั่งน้ำตาคลออยู่ในบ้านพัก พื้นที่บ้านห้วย ตำบลห้วยจันทร์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากสามีหายตัวไป โดยไม่รู้ชะตากรรมนานถึง 8 วัน
นางสาวทิพวัลย์ โทรติดต่อหานายมงคลหลายครั้ง แต่ติดต่อไม่ได้ จึงโทรหานายจันทร์แสง ปานทอง แรงงานไทยที่ทำงานในแคมป์เดียวกับสามี โดยนายจันทร์แสง เล่าว่า เห็นนายมงคลครั้งสุดท้าย เมื่อเช้าวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งนายมงคล ออกไปทำงานที่สวนก่อนคนอื่น จากนั้นมีระเบิดตกลงมากลางสวนมะเขือเทศและมีกระสุนยิงมาจากทุกทิศ พอช่วงสายนายจ้างนับคนงาน ปรากฏว่า นายมงคล หายไปคนเดียว และติดต่อไม่ได้อีกเลย คาดว่าอาจหนีไปหลบในไร่ส้ม หรือ โรงมัน
หลังจากนายจ้างพาแรงงานอพยพออกมาจากพื้นที่สีแดง จึงนำรูปนายมงคล โพสต์ลงเฟซบุ๊กเพื่อให้เพื่อน ๆ ที่ทำงานในอิสราเอลช่วยกันตามหา

นางสาวทิพวัลย์ บอกว่า หลังรู้ข่าวว่า มีการสู้รบกัน รู้สึกตกใจ ใจคอไม่ค่อยดี กินไม่ได้นอนไม่หลับมาเป็นสัปดาห์ จนต้องไปพึ่งหมอดู ก็ทำนายว่า สามียังมีชีวิตอยู่ ทำให้ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่ยังอดห่วงไม่ได้ตอนนี้ได้แต่ภาวนาขอให้ได้เจอสามี และกลับมาหาลูกเมีย หากสามีดูข่าวนี้อยู่ ขอให้รีบติดต่อมาและให้รีบบินกลับบ้าน จะไม่ให้กลับไปทำงานอีกแล้ว 

แม่บนศาลเจ้าพ่อช่วยลูกปลอดภัยกลับบ้าน จ.มหาสารคาม
ส่วนที่จังหวัดมหาสารคาม นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม และคณะไปให้กำลังใจนางประณีย์ เสริมศักดิ์ ที่บ้านพัก ตำบลหนองซอน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม หลังจากลูกชาย คือ นายจตุพร หีบแก้ว แรงงานไทยในอิสราเอลที่อยู่ในพื้นที่สีแดง ห่างจากฉนวนกาซา 3 กิโลเมตร

นางประณีย์ บอกว่า ตอนแรกได้ยินข่าวตกใจมากและติดต่อลูกชายไม่ได้ ทำให้ใจจะขาด จนต้องไปบนที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองให้ลูกปลอดภัยกลับมา จนผ่านไป 3 วันลูกชายโทรกลับมาหา ก็ดีใจมาก จึงอยากจะวิงวอนให้รัฐบาลช่วยหาทางพาลูกชายกลับบ้านด้วย และคงจะไม่ให้ลูกทำงานที่นั่นอีกแล้ว

โดยเมื่อวานนายจตุพร ได้วิดีโอคอลมาพูดคุยกับคุณแม่ว่า วันแรกมีผู้ก่อการร้ายเข้ามากราดยิงที่แคมป์มีคนไทยอยู่ 50 คน แต่ยังดีที่แคมป์มีทหารเข้ามาช่วยเหลือไว้ทัน ทำให้มีผู้บาดเจ็บโดนยิง 1 คน