ย้อนดูคดีเก่า บิ๊กโจ๊ก มือปราบคอลเซ็นเตอร์-พนันออนไลน์ สุดท้ายเจอค้นถึงบ้าน
ย้อนดูคดีเก่า บิ๊กโจ๊ก มือปราบคอลเซ็นเตอร์-พนันออนไลน์ สุดท้ายเจอค้นถึงบ้าน กับกระแสข่าวสกัดนั่งเก้าอี้แม่ทัพสีกากี
บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ลุยปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ไล่จัดการเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์สาวไปไกลถึงตำรวจระดับนายพล มาวันนี้ (25 ก.ย.2566) กลับโดนคดีเสียเอง
ย้อนดูเส้นทางทำคดี บิ๊กโจ๊ก จับคดีไหน ดังกระจายไปทั่วประเทศ ยิ่งขึ้นมาดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ยิ่งครองพื้นที่สื่อไม่เว้นวัน เพราะไม่ว่าจะคดีดังคดีไหน พล.ต.อ.สุเชษฐ์ เข้าไปจัดการกวาดล้างหมด เริ่มตั้งแต่คดีทุนจีนสีเทา ผับจินหลิง ที่มีตู้ห่าว ชายสัญชาติจีนเป็นเจ้าของ พบนักท่องเที่ยวมั่วสุมเสพยาเสพติด แผ่อิทธิพลไปรอบพื้นที่จนตำรวจต้องมาจัดการ โดยมี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ช่วยกระทุ้งอีกแรงหนึ่ง สังคมจึงได้รู้จักกับทุนจีนสีเทา และติดเครื่องจักรรื้อถอนธุรกิจผิดกฎหมายของคนจีนที่มาฝังรากลึกในประเทศไทย
ไม่ใช่แค่จีนเทาเท่านั้น แต่คอลเซ็นเตอร์ก็ไม่รอด เมื่อคุณพ่อของครอบครัวหนึ่งที่บางแก้ว สมุทรปราการ ตัดสินใจปลิดชีวิตทั้งครอบครัว เพราะปัญหาด้านการเงิน ซ้ำร้ายยังมาโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาเงินอีกนับล้านบาท เมื่อเกิดเรื่อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ไม่รอช้า กระโดดเข้าทำคดี จัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้แบบเต็มสูบ เพราะบินลัดฟ้า หารือกับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของกัมพูชา เพื่อผนึกกำลังจัดการถอนรากถอนโคนขบวนการนี้ให้สิ้นซาก จับไปได้อีกหลายคน
"ตำรวจถ้าทำผิดก็ต้องดำเนินคดี" ประโยคที่บิ๊กโจ๊กพูดอยู่บ่อย ๆ แน่นอนว่าทำจริงแม้แต่ตำรวจระดับนายพลก็ไม่เว้นกับคดี "เป้รักผู้การเท่าไรเขียนมา" หลังนายตำรวจใหญ่ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ เข้าไปเอี่ยวคดีรีดไถเงินแก๊งพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท ขณะดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังชลบุรี สุดท้ายโดนเด้ง ส่วนตำรวจในคาถาโดนรื้อดำเนินคดีทั้งหมด เรียกว่า ล้างชลบุรีชุดใหญ่
จากวันนั้นที่ลุยปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ ทุนจีนสีเทา พนันออนไลน์ มาถึงวันนี้ กลับถูกค้นบ้านเพราะลูกน้องเข้าไปพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์จนโดนรื้อบ้าน แถมเกิดช่วงปลายเดือนกันยายนแบบนี้ หลายคนคงโยงกันได้ว่าอาจเกี่ยวกับเก้าอี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งบิ๊กโจ๊กบอกเอง ว่าเรื่องนี้ถูกเตรียมการมาก่อน และเป็นเรื่อง การเมืองภายในของ ตร. แบบนี้คนนอกอย่างเรา คงได้แค่ติดตามอยู่ห่าง ๆ ว่าความปั่นป่วนของวงการสีกากีไทยจะไปจบลงที่จุดไหน เพราะระหว่างที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์สู้รบตบมือกันอยู่นั้น ประชาชนอย่างเรา ก็ต้องสู้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรมาไม่เว้นแต่ละวันเหมือนกัน