จับคาทางด่วน คนร้ายอุ้มรีดเงินสาวจีน มัดมือมัดเท้าจับใส่รถเก๋ง
เช้านี้ที่หมอชิต - เปิดนาทีสาวจีนวิ่งหนีตายออกจากรถเก๋ง สภาพถูกมัดแขนขา หลังถูกหนุ่มร่วมชาติ หลอกมอมยาข่มขืน จับเรียกค่าไถ่ 1 ล้านบาท
กล้องวงจรปิดบนทางด่วนศรีรัช ช่วงทางลงพระราม 9 บันทึกภาพหลังรถเก๋งเฉี่ยวชนท้ายรถฟอร์จูนเนอร์ จะเห็นคนขับรถเก๋งเป็นผู้ชายใส่เสื้อสีน้ำเงิน พยายามเดินไปเคลียร์กับคู่กรณี ระหว่างนั้นมีผู้หญิงวิ่งหนีออกมาจากรถเก๋ง สภาพเท้าเปล่า เดินฝ่าการจราจร วิ่งไปโบกรถแท็กซี่ สีเหลืองที่ขับผ่านมาพอดี และบอกให้คนขับช่วยพาหลบหนี เพราะถูกลักพาตัวมา
คนขับแท็กซี่ไหวพริบดี พาผู้หญิงคนนี้ไปขอความช่วยเหลือตำรวจ สน.ทางด่วน 2 ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตรงด่านเก็บเงิน ซึ่งสภาพที่หญิงคนนี้ลงจากรถ ยังมีเชือกรัดที่ข้อมือและข้อเท้าซ้าย เจ้าหน้าที่จึงพาไปแกะเชือก พร้อมสอบถามรายละเอียด ก่อนนำกำลังไปจับกุมตัวคนร้าย (ชายเสื้อน้ำเงิน) จากการตรวจค้นตัวคนร้าย พบเงินสด 100,000 บาท และเงินสดสกุลต่าง ๆ
ส่วนภายในรถพบเชือก คล้ายกับเชือกที่มัดผู้เสียหาย จึงยึดรถมาตรวจสอบ รวมทั้งคุมตัวคนร้ายมาสอบปากคำที่ สน.มักกะสัน ทราบชื่อคือ นายจ้าว วู่ หลิน ชาวจีน ให้การว่าทำอาชีพเป็นคนขับรถอยู่ดูไบ เดินทางจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาเที่ยวเมืองไทย เมื่อวันที่ 8 กันยายน และลงมือก่อเหตุทันที เพราะเชื่อว่าผู้เสียหายเป็นคนมีเงิน จึงเรียกค่าไถ่ ยืนยันก่อเหตุคนเดียว ไม่เกี่ยวข้องแก๊งจีนเทาแต่อย่างใด
ด้านผู้เสียหายเป็นสาวชาวจีน ให้การว่า มีอาชีพเป็นนายหน้าหาคนไปศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี เมื่อวันที่ 2 กันยายน เดินทางมาเที่ยวไทย และมีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับคนร้ายผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรม พูดคุยทำความรู้จักกันประมาณ 10 วัน ก่อนนัดเจอกันที่ร้านอาหาร แต่หลังจากทานอาหารและดื่มสุราไปสักระยะ ก็รู้สึกมึนศีรษะ ก่อนจะจำความอะไรไม่ได้ จนช่วงเช้าเมื่อวาน ตื่นมาพบตัวเองนอนอยู่โรงแรม สภาพเปลือยเปล่า
จากนั้นคนร้ายชักชวนไปเที่ยวต่อที่พัทยา ระหว่างทางพาแวะซื้อข้าว และใช้วาจาข่มขู่ บีบคอ พาขับรถไปที่เปลี่ยว เพื่อจับมัดมือมัดเท้า เรียกค่าไถ่ 1 ล้านบาท แต่ตนไม่มีเงิน จึงติดต่อเพื่อนให้โอนเงินมา 250,000 บาท หลังเงินโอนเข้าบัญชี คนร้ายขับรถจะพาไปกดเงิน แต่มาเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนก่อน จึงหนีรอดมาได้
เบื้องต้นคนร้ายถูกแจ้งข้อหาเรียกค่าไถ่, หน่วงเหนี่ยวกักขัง, ทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ และข้อหาอนาจาร โดยต้องรอผลตรวจร่างกายของผู้เสียหายก่อน จึงจะแจ้งข้อหาข่มขืนเพิ่มเติมได้