พาสายมูรู้จัก "ครูกายแก้ว" บรมครูผู้เรืองเวทย์ ครึ่งมนุษย์ครึ่งนก รูปปั้นติดคานสะพาน

คลิปที่เกี่ยวข้อง

พาสายมูรู้จัก "ครูกายแก้ว" บรมครูผู้เรืองเวทย์ ครึ่งมนุษย์ครึ่งนก รูปปั้นติดคานสะพาน


พาสายมูรู้จัก "ครูกายแก้ว" บรมครูผู้เรืองเวทย์ ครึ่งมนุษย์ครึ่งนก รูปปั้นติดคานสะพาน

วันที่ 9 ส.ค.66 จากกรณีช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดเหตุรถติดสาหัส บริเวณถนนรัชดาภิเษกขาเข้า ก่อนถึงซอยรัชดาภิเษก 36 เล็กน้อย หลังมีรถบรรทุกคันหนึ่ง ซึ่งบรรทุกรูปปั้นขนาดใหญ่ ไม่สามารถลอดผ่านสะพานลอยคนข้ามไปได้ โดยรูปปั้นสูงใหญ่ติดคานสะพาน ซึ่งเมื่อมีการแชร์แจ้งข่าวสารออกไป หลายคนได้เห็นรูปปั้นที่เป็นลักษณะกึ่งมนุษย์กึ่งนก ดูน่าเกรงขาม มีปีก เล็บยาวสีแดง และมีเขี้ยวสีทอง ทำเอาหลายคนอดสงสัยไม่ได้ ว่าคือรูปปั้นอะไร?

ทั้งนี้จากการสืบค้นข้อมูล พบว่ารูปปั้นดังกล่าวคือ "ครูกายแก้ว" หรือที่หลายๆคนอาจจะรู้จักกันในนาม "พ่อใหญ่บรมครูผู้เรืองเวทย์" ซึ่งถูกขนานนามว่า "เทพเจ้าแห่งโชคลาภ" โดยเว็บไซต์ครูกายแก้ว.com ได้บอกเล่าประวัติเท่าที่ปรากฏไว้ว่า ครูกายแก้วมากับพระธุดงค์ที่จังหวัดลำปาง จากการที่พระรูปนี้ได้ธุดงค์ไปทำสมาธิที่ปราสาทนครวัดนครธม ประเทศกัมพูชา และต่อมาก็ได้มอบครูกายแก้วนี้ให้กับลูกศิษย์นั่นก็คือ อ.ถวิล มิลินทจินดา นักร้องเพลงไทยเดิมของกองดุริยางค์ทหารสมัยก่อน ผู้เป็นอาจารย์ อ.สุชาติ รัตนสุข ผู้สร้างองค์ปฐมของครูกายแก้วขึ้นในประเทศไทย

ในครั้งแรกที่ อ.สุชาติ ได้รับมอบครูกายแก้วมานั้น องค์ครูมีขนาดเล็ก เป็นลักษณะคนนั่งหน้าตักเพียงแค่ประมาณ 2 นิ้วเท่านั้น และต่อมาครูกายแก้วก็ปรากฎกายให้ อ.สุชาติได้เห็น ในตอนนั้นเอง อ.สุชาติ ก็ได้ทำการวาดภาพของครูกายแก้วจากจินตนาการ และทำการหล่อรูปองค์ครูขึ้นเป็นองค์แรก มีลักษณะเป็นองค์ยืน คล้ายคนแก่ นำไปไว้ที่สำนัก จุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการบูชาครูนั่นเอง

โดยรูปร่างลักษณะขององค์ครูกายแก้วที่ อ.สุชาติสร้างขึ้นมานั้น เป็นลักษณะของผู้บำเพ็ญ กึ่งมนุษย์กึ่งนก มีปีกด้านหลัง มีเขี้ยวทองเพื่อสื่อถึงนกการเวก อ้างอิงตามหลักฐานที่ปรากฎอยู่บนกำแพงบายน ที่มีประวัติของการเวกซึ่งเป็นพวกนักดีดสีตีเป่า ถือเป็นครูของศาสตร์ศิลป์ทั้งหลายในยุคของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ของกัมพูชา


โดยการบูชาองค์ครูกายแก้วนั้น เหล่าศิษยานุศิษย์จะทำการบูชาครูด้วยธูป 5 ดอก กราบไหว้องค์ครู  หลังจากนั้นจะทำการถายเงินที่ตู้แก้วของครูกายแก้ว และทำการเคาะแล้วจึงขอพรบอกกล่าวความปรารถนาแก่องค์ท่าน

สำหรับคาถาบูชาครูกายแก้ว ให้กล่าวคำบูชา ตามนี้  "นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธ ธัสสะ" (ตั้งนะโม 3 จบ)

"มะอะอุ ครูกายแก้ว เมตตา จะมหาราชา สัพพะสเน่หา มะมะจิตตัง ปิยังมะมะ" (สวด 9 จบ)


ทั้งนี้หากต้องการขอพรให้สัมฤทธ์ผล นอกจากตั้งนะโม สวดคาถาบูชาครูกายแก้วแล้ว ต้องระบุชื่อ-นามสกุลจริง วันเดือนปีเกิด และตั้งจิตอธิษฐานขอพรตามปรารถนา และให้เตรียมของบูชา ได้แก่ ธูป 5 ดอก, เทียน 1 เล่ม, มะพร้าวน้ำหอมเผา, ผลไม้ 3-5 อย่าง, ของหวาน 3-5 อย่าง, ทองคำเปลว, หมากพลู และน้ำหอมน้ำปรุง

นอกจากองค์ครูกายแก้วที่อยู่ที่ประเทศไทยแล้ว ความศรัทธาที่มีต่อครูนี้ก็ยังเผยแผ่ไปไกลยังฮ่องกง โดยที่นั่นเองก็มีองค์ครูกายแก้ว ซึ่งเป็นที่เลื่องลือในด้านของความศักดิ์สิทธิ์ ให้พรในเรื่องความสำเร็จ ความร่ำรวย เจริญรุ่งเรืองเงินทอง จนชาวฮ่องกงพากันเปรียบองค์ครูกายแก้วเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยเลยทีเดียว 


BUGABOONEWS
ขอบคุณข้อมูลจาก ครูกายแก้ว.com / ภาพจาก ศาลพระพิฆเนศ อาเขตเชียงใหม่, ศูนย์วิทยุชาลี

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark