ล่ามือระเบิดรถยนต์ กลางเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส
เจาะประเด็นข่าว 7HD - เจ้าหน้าที่ชุด EOD เข้าตรวจสอบเหตุระเบิดรถยนต์กลางเมืองสุไหงโก-ลก พบถังก๊าซหุงต้มบรรจุระเบดเพิ่มอีก 1 ถัง และกำลังขยายผลหาความเชื่อมโยง ว่าเป็นฝีมือของแนวร่วมกลุ่มใด แต่ยืนยันไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์โกดังเก็บเดอกไม้เพลิงระเบิดที่ตลาดมูโนะ
เราย้อนไปดูเหตุการณ์นี้กันอีกครั้ง ตามภาพที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ จะเห็นว่า คนร้ายขับรถเก๋งเข้ามาจอดบนถนน บริเวณทางรถไฟในอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ก่อนที่จะนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ที่มีคนขี่มารับออกไปจากจุดเกิดเหตุ จากนั้นไม่นานรถก็เกิดระเบิดขึ้น และเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง แต่ยังเคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วานนี้
ส่วนการตรวจสอบภาพวงจรปิดเส้นทางที่รถของคนร้ายที่นำระเบิดเข้ามาในจุดเกิดเหตุ พบว่า ขับมาจากในพื้นที่บ้านปอเนาะ ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มก่อเหตุที่มีความเคลื่อนไหว และหลบพักพิงในเขตเทือกเขาตะเว โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวกลุ่มคนร้าย
วันนี้ (6 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ชุด EOD ได้เข้าตรวจบริเวณจุดเกิดเหตุ บริเวณถนนพาดรางรถไฟ 4 แยกอรกานต์ ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก อีกครั้ง ซึ่งยังคงปิดกั้นถนนไว้เป็นพื้นที่อันตราย เพราะกลัวว่าจะมีระเบิดซุกซ่อนอยู่อีก และพบว่าบริเวณซากความเสียหายของรถเก๋ง ที่มีรัศมีของแรงระเบิดกว้างกว่า 100 เมตร
ส่วนใกล้ ๆ กับจุดเกิดเหตุ พบถังก๊าซหุงต้มขนาด 15 กิโลกรัม อีก 1 ถัง ซึ่งเป็นระเบิดที่ยังไม่ทำงาน ทำให้ต้องใช้โดรนเพื่อบินสำรวจ ก่อนที่เจ้าหน้าจะเคลื่อนย้ายถังก๊าซที่บรรจุดระเบิดนำขึ้นรถกระบะออกไปทำลายในพื้นที่ปลอดภัย ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุมีทั้งหมด 4 คน ใช้รถยนต์ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 2 คัน โดยก่อนเกิดเหตุระเบิดคนร้ายได้ขว้างไปป์บอมบ์ 1 ลูก และยิงใส่ป้อมตำรวจด้วยอาวุธปืนอาก้าหลายนัดด้วย ก่อนที่มาวางระเบิดรถยนต์
สำหรับถังก๊าซที่บรรจุระเบิดพบว่า เป็นถังก๊าซที่นระบุว่ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีลักษณะการตัด และเชื่อมปิดใหม่ คาดว่าระเบิดที่ใช้เป็นแบบแสวงเครื่อง น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 30 กิโลกรัม รวม 2 ถัง น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 60 กิโลกรัม แต่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า มีการจุดชนวนระเบิดด้วยวิธีใด
ด้าน พลตำรวจตรี อนุรุธ อิ่มอาบ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการสร้างสร้างความวุ่นวาย และความปั่นป่วนเกิดขึ้นในพื้นที่ ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ เป้าหมายน่าจะหวังทำลายระบบย่านเศรษฐกิจ และสร้างสถนการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ได้มุ่งชีวิตผู้ใด และไม่เกี่ยวข้องกับการเบี่ยงเบนความสนใจ จากกลุ่มขบวนการธุรกิจสีเทา และสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่มูโนะ หลังจากที่ 2 สามีภรรยาเจ้าของโกดังเก็บประทัด ดอกไม้เพลิง เข้ามอบตัวกับตำรวจเมื่อวานนี้