เสนอชื่อ พิธา โหวตนายกรัฐมนตรีรอบสอง 19 ก.ค.นี้
ข่าวภาคค่ำ - 8 พรรคการเมืองที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล เคาะชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เสนอให้ที่ประชุมรัฐสภา โหวตเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ โดยยังไม่เตรียมบุคคลใดสำรองไว้
เสนอชื่อ พิธา โหวตนายกรัฐมนตรีรอบสอง 19 ก.ค.นี้
ที่ประชุม 8 พรรคการเมืองที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล มีมติเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล ให้ที่ประชุมรัฐสภาลงมติเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หากเสียงสนับสนุนเห็นชอบไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ก็จะเปิดโอกาสให้พรรคอันดับ 2 เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
นายพิธา ระบุว่า หากตัวเลขของเสียงสนับสนุนในการโหวตครั้งที่ 2 ได้เพิ่มขึ้นไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ก็พร้อมให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วนกระแสข่าวพูดคุยกับแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนานั้น ยอมรับว่าเป็นความจริง แต่ไม่ได้ขอเสียงสนับสนุนในการโหวตเลือก เป็นเพียงการพูดคุยเรื่องสถานการณ์การเมืองเท่านั้น
ทั้งนี้ นายพิธา ยังไม่กังวลใจต่อการประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะมีขึ้นในเดียวกันกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบ 2 เพราะแม้จะวินิจฉัยว่า ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. ก็ไม่ได้กระทบกับตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ถ้า นายพิธา ไม่ได้ไปต่อ ก็พร้อมถูกเสนอชื่อให้รัฐสภาลงมติเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับมติของ 8 พรรค และการจัดตั้งรัฐบาลต้องเกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อเดินหน้าแก้ปัญหาปากท้องและปัญหาเศษฐกิจ
สว. เชื่อหากเสนอชื่อ พิธา โหวตรอบ 2 อาจขัด รธน. และข้อบังคับ
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. กล่าวว่า หากมีการเสนอชื่อ นายพิธา เข้าสู่การโหวตรอบ 2 ก็อาจขัดและแย้งกับรัฐธรรมนูญ หรือข้อบังคับการประชุมรัฐสภาได้ ซึ่งหากอภิปรายแล้วไม่ได้ข้อยุติ ก็ต้องใช้เสียงในที่ประชุมรัฐสภาตัดสิน ดังนั้น จึงควรทำตามรัฐธรรมนูญมาตรา 88 ที่กำหนดให้แต่ละพรรคการเมืองที่เสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้เสนอชื่อแคนดิเดตให้ครบถ้วน หากไม่มีใครเสนอแล้ว ก็ค่อยเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอก
สว. ไม่ทนถูกบุลลี ประเดิมฟ้อง 2 ทนายดัง
ส่วนกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อความหมิ่นประมาท สว. ผ่านทางโซเชียลนั้น สว. หลายคน ประกาศจะเดินหน้าดำเนินคดีกับทุกคนที่กล่าวให้ร้าย โดยเบื้องต้นได้ประเดิมฟ้องเอาผิดทางแพ่ง และ ทางอาญา กับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ และ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ แล้ว โดยเรียกค่าเสียหายรายละ 500,000 บาท ซึ่งล่าสุดศาลได้รับคำฟ้อง และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 11 และ 25 กันยายนนี้
ศาล รธน. นักถกรับ-ไม่รับ คดี พิธา ถือหุ้นสื่อ 19 ก.ค.นี้
ด้านตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมในวันพุธที่ 19 กรกฎาคมนี้ มีวาระสำคัญคือ การพิจารณาคำร้องที่ กกต. ส่งมาให้วินิจฉัย ตามมาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพการเป็น สส. ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ต้องสิ้นสุดลงหรือไม่ ซึ่งหากศาลฯ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย ก็จะพิจารณาข้อมูลข้อเท็จจริง และหากปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้องจริง ก็จะมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. ไว้ จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย และให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน