ประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ : ส่งออกสินค้าไทย ปีนี้น่าห่วง

ประเด็นเด็ด 7 สี - การท่องเที่ยวเวลานี้เรียกได้ว่า ฟ้าเปิดแล้ว แต่อีกหนึ่งเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจตัวสำคัญ นั่นก็คือภาคการส่งออก สถานการณ์ขณะนี้กลับมาน่าเป็นห่วงอีกครั้ง ติดตามได้ใน ประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ

การส่งออกสินค้าไทย ที่เคยเป็นพระเอกทางเศรษฐกิจ อาการน่าเป็นห่วงแล้ว สืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย และค่าเงินก็ยังเป็นตัวแปรสำคัญ ต่อภาคการส่งออก แม้จีนจะเปิดประเทศ แต่ก็ใช่ว่าจะทำให้ภาคการส่งออกของไทยพลิกกลับมาดีขึ้นได้

การส่งออกของไทยปีนี้เรียกได้ว่า ยังเจอมรสุม ต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว เพราะผลกระทบจากโควิด-19 ที่ยังไม่หมดสิ้น นอกจากจะกระทบเศรษฐกิจหลาย ๆ ประเทศ และยังฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจโลก แน่นอนว่าเศรษฐกิจไทยเองก็หนี้ไม่พ้นเช่นกัน

หากเราย้อนไปดูตัวเลขส่งออกสินค้าไทย ตั้งแต่เดือน ตุลาคม ปีที่แล้ว ก็เริ่มติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 20 เดือน ที่ 4.4% จากนั้นเดือนพฤศจิกายน ตัวเลขยังคงติดลบ 6% ส่วนเดือนธันวาคม คาดว่า จะติดลบไม่ต่ำกว่า 7.5% สัญญาณ ส่งออกติดลบ ยังดังลามมาถึงปีนี้ด้วย ซึ่งมีการประเมินกันว่า การส่งออกของไทย ช่วง 3 เดือนแรก มีความเป็นไปได้สูงที่จะติดลบ เพราะมรสุม มากเหลือเกิน อย่างสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ประเมินว่า ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อการส่งออกในปี 2566 มีทั้งปัญหาอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นทั่วโลก,สถานการณ์โควิด-19 ในจีน ที่แม้จะผ่อนคลายมาตรการควบคุม แต่เชื่อว่ายังผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะผลกระทบต่อโกลบอลซัพพลายเชน

นอกจากนี้อย่าลืมว่า สถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ยังกินเวลามาเกือบครบ 1 ปี เป็นปัจจัยที่ยังคงส่งผลต่อวิกฤตอาหารโลก และเป็นปัจจัยที่จะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง คาดว่า การส่งออกของประเทศไทยในปีนี้ จะขยายตัวได้เพียง 2-3% จากการประเมินของยอดจองตู้ขนส่งสินค้า หรือ คอนเทนเนอร์ ณ เวลานี้

ขณะที่ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่า ปีนี้หินอยู่เหมือนกัน ดีสุดส่งออกไทยปีนี้จะโตเฉลี่ยที่ 1% เท่านั้น ซึ่งตัวเลขที่ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศประเมิน ถือเป็นตัวเลขที่หดตัวลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 หรือ โตต่ำสุดในรอบ 3 ปี

หนทางหลังจากนี้ ทุกภาคส่วนไม่เพียงเฉพาะผู้ส่งออก ต้องหาทางดิ้น ส่งสินค้าไทยไปตลาดโลกให้ได้ และแม้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ สินค้าฟุ่มเฟือย จะเป็นกลุ่มสินค้าส่งออกที่น่าจะมีปัญหามากที่สุดในปีนี้ แต่ยังพอมีที่ว่างสำหรับตลาด 3 ส คือ สินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และสังคมชุมชน ตรงนี้ตลาดยังเปิดกว้าง ก็คงต้องปรับกลยุทธ์ และวางแผนรับความเสี่ยงกันให้ได้