ล่าชายหัวร้อนกราดยิงหน้าร้านอาหารอีสาน

ข่าวอาชญากรรม 27 ธันวาคม 2565 - สนามข่าว 7 สี - เหตุการณ์นี้ความหิวเป็นเหตุ เมื่อชายหนุ่มควักปืนกราดยิงร้านอาหารอีสาน จนลูกค้าต้องวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น

นี่เป็นนาทีคนนั่งกินข้าวอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เลียบทางรถไฟตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร จู่ ๆ มีเสียงดังคล้ายอาวุธปืน จำนวน 2 ครั้ง จากนั้นชายอายุประมาณ 30-40 ปี ผิวสีดำแดง รูปร่างท้วม ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านดังกล่าว แล้วยิงปืนอีก 1 ครั้ง ก่อนจะตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตอนนั้นลูกค้าที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ในร้าน ต่างวิ่งหนีตายไปคนละทิศคนละทาง บางคนรีบหมอบลงกับพื้น เพราะกลัวจะถูกลูกหลง แต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่สะทกสะท้าน แถมตะโกนด่าซ้ำ และยิงปืนอีกครั้ง ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา

ชายอายุ 42 ปี เจ้าของร้าน บอกว่า ผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาในครัว แล้วบอกว่าขอสั่งรายการอาหาร เลยรีบแจ้งลูกค้าว่าในห้องนี้ไม่สามารถเข้าได้ เพราะห้องนี้เป็นห้องครัวปรุงอาหาร และมีอุปกรณ์หลายอย่าง รวมไปถึงที่เก็บเงิน จึงขอสงวนไว้พนักงานเท่านั้น และขอให้ลูกค้าออกไปจดรายการด้านนอก แล้วนั่งรอสักครู่ ยังไม่ทันจะพูดจบ ชายดังกล่าวสั่งยกเลิกรายการอาหารทั้งหมด และบอกว่าพูดจาข่มขู่แบบนี้ ทำตัวเป็นนักเลงชัด ๆ จึงตัดสินใจกล่าวคำขอโทษ และอธิบายว่าไม่มีเจตนาจะให้เข้าใจแบบนั้น แต่ผู้ก่อเหตุชี้หน้าแล้วพูดว่า "เดี๋ยวมึ..รอเลย" จากนั้นก็บ่นสารพัด ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ออกไป

หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์มากับเพื่อน ๆ อีกหลายคัน โดยแต่ละคันใช้ผ้าบังป้ายทะเบียนไว้ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะชักอาวุธปืนยิงป้ายหน้าร้าน ข้างร้าน และในห้องครัว คือจุดที่ตนเองยืนอยู่ ทำให้ลูกค้าที่นั่งกินอาหารอยู่ในร้าน วิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น ตอนนั้นเห็นว่าผู้ก่อเหตุมากับเพื่อนอีก 2 คน รวมเป็น 3 คน หลังก่อเหตุทั้งหมดก็ขี่รถหลบหนีไป จึงรีบไปแจ้งความที่ สน.ตลิ่งชัน เพื่อให้ตำรวจติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะเป็นบุคคลอันตราย ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากับผู้ก่อเหตุมาก่อน และทราบว่าผู้ก่อเหตุเคยพักอาศัยอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ มีพฤติกรรมเป็นนักเลง ชอบหาเรื่องคนอื่นอยู่เป็นประจำ เพราะผู้ก่อเหตุมีน้องชายเป็นตำรวจ จึงไม่เกรงกลัวกฎหมาย ก็กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

เบื้องต้น ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง จนตอนนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ ในข้อกล่าวหายิงปืนในที่สาธารณะ หากตรวจสอบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุแล้วพบว่าไม่มีใบอนุญาต ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม