ประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ : ปีใหม่เงินสะพัดกว่า 1 แสนล้านบาท
ประเด็นเด็ด 7 สี - ข่าวดี ของขวัญกล่องใหญ่จากรัฐบาลหนึ่งในนั้น คือโครงการช้อปดีมีคืน เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มแรงส่งเศรษฐกิจไทยปีนี้ ให้ขยายตัวต่อเนื่องได้จนถึงปีหน้า ติดตามในประเด็นเด็ดเศรษฐกิจวันนี้
โครงการช้อปดีมีคืน ซึ่งกระทรวงการคลัง จะเปิดให้ประชาชนนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการ มาลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง วงเงินสูงสุด 40,000 บาทต่อคน รวม ๆ กับการจัดกิจกรรม และการขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยว คาดว่า ช่วงปีใหม่ 2566 เงินสะพัดจะมีกว่า 100,000 ล้านบาท
มาตรการช้อปดีมีคืน เป็นมาตรการที่ถูกพัฒนามาจากมาตรการช้อปช่วยชาติ ซึ่งก็มีการปรับปรุงเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ เปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น "ช้อปดีมีคืน" ถือเป็นเครื่องไม้เครื่องมือสำคัญของรัฐบาล ที่จะนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี โดยกระทรวงการคลัง ก็ประเมินว่า มาตรการช้อปดีมีคืน จะทำให้กรมสรรพากรสูญเสียรายได้กว่า 8,200 ล้านบาท แต่จะส่งผลดี ให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 56,000 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่า 0.1-0.2% ในปี 2566
มาดูเงื่อนไขของมาตรการที่สำคัญ ๆ กับมาตรการนี้จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ไปจนถึง 15 กุมภาพันธ์ ปีหน้า 2566 รวมระยะเวลา 46 วัน นั่นก็หมายความว่า คุณผู้ชมที่จะใช้สิทธิ จะมีเวลาช้อปปิง 46 วัน และต้องเริ่มปีหน้า
ส่วนสินค้าและบริการที่ใช้ลดหย่อนภาษี "ช้อปดีมีคืน" ได้แก่ สินค้าและบริการทั่วไปที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT, หนังสือ รวมถึง e-book ,สินค้า OTOP ที่ลงทะเบียนกับกรมพัฒนาชุมชนแล้ว ยกเว้นค่าซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ รถยนต์ จักรยานยนต์ เรือ ค่าที่พักโรงแรม ค่าไกด์นำเที่ยว ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต และค่าเบี้ยประกัน ตรงนี้ไม่ร่วมมาตรการ ซึ่งมาตรการนี้ไม่เพียงขาช้อปได้เฮ บรรดาผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจ ก็พลอยปรบมือ ดีใจไปด้วย
ด้านนักเศรษฐศาสตร์ ประเมิน ช่วงเฉลิมฉลอง ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ จะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 100,000 ล้านบาท สูงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยปีละ 70,000-80,000 ล้านบาท เนื่องจากการใช้จ่ายภายในประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ เดือนตุลาคมที่ผ่านมา และน่าจะยาวไปจนถึง เดือนมีนาคม ปี 2566 หลัก ๆ เงินได้มาจากภาคธุรกิจท่องเที่ยว และเงินสะพัดอีกก้อนน่าจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ ช่วงการเลือกตั้งคาดว่า เม็ดเงินจะไหลสู่ระบบเศรษฐกิจ 40,000 ล้านบาท และจะหมุนเวียนเข้าระบบเศรษฐกิจ เป็น 70,000-80,000 ล้านบาท มีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจประเทศ หรือ ขับเคลื่อน GDP ได้ ราว ๆ 0.3% ทำให้ คาดการณ์ได้ว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้าจะขยายตัว 3.5%
ไม่ว่าจะเป็น มาตรการช้อปดีมีคืน หรือ เราเที่ยวด้วยกัน ที่รัฐบาลหวังจะใช้เป็นเครื่องมือ กระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ แต่ก็อย่าลืมว่า สิ่งที่เราต้องตั้งรับไปด้วย นั่นก็คือ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มหวนกลับมาสร้างปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง
