ลูกสาวกรุงศรีวิไล วูบบ่อย อ้างได้หรือไม่หลังชนกราวรูด

เช้านี้ที่หมอชิต - จากกรณีลูกสาวกรุงศรีวิไล สุทินเผือก สส.พรรคพลังประชารัฐ ขับรถเสียหลักพุ่งชนรถจักรยานยนต์และรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทาง เสียหายรวม 8 คัน ที่จังหวัดชลบุรี จนกลายเป็นคำถามว่าเมาแล้วขับหรือไม่ แต่ผลตรวจก็ชัดว่าไม่มีแอลกอฮอล์ และเธอพร้อมรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น เรื่องเหมือนจะจบ เพราะผู้ก่อเหตุยอมรับผิด และพร้อมชดใช้ แต่ประเด็นดรามาไม่ได้อยู่แค่ตรงนี้ หลังจากลูกสาวกรุงศรีวิไล ออกมาชี้แจ้งผ่าน IG กลายเป็นว่าเกิดคำถามจากสังคมทันที มีการวูบบ่อยแล้วมาขับรถทำไม ?

ก่อนอื่นเราไปดูดาราสาว แอล กมลวรรณ สุทินเผือก ลูกสาวกรุงศรีวิไล สุทินเผือก สส.พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ชี้แจงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แอล บอกว่า ปกติเธอไม่ได้ขับรถเองนะ จะมีคนขับให้ แต่วันที่เกิดเหตุ (11 ธ.ค. เวลา 00.30 น.) กำลังจะกลับเข้าโรงแรมที่พัก ซึ่งใกล้ ๆ จึงขับเอง แต่อยู่ดี ๆ ก็เกิดอาการวูบ แถมยังวงเล็บมาด้วยว่า "เป็นอยู่บ่อยๆ" รู้ตัวอีกทีรถได้พุ่งชนรถที่จอดอยู่ข้างถนนแล้ว พร้อมแนบเอกสารการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์มีค่าเป็น 0 เพื่อยืนยันว่าตนเองไม่ได้เมาแล้วขับ

งานนี้เรื่องเหมือนจะจบ เพราะแอลก็ยอมรับผิด พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย แต่ชาวเน็ตกลับข้องใจประโยคที่ว่า "อุบัติเหตุเกิดจากการวูบ แถมยังวูบบ่อยด้วย ไม่ได้เพิ่งมาเป็น" งานนี้เลยเกิดคำถามว่า รู้ตัวว่าป่วยแล้วทำไมถึงขับรถ เหตุการณ์นี้ยังโชคดี ไม่มีคนเจ็บ หากมีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิตขึ้นมา จะรับผิดชอบอย่างไร

ทีมข่าวสอบถามข้อกฎหมายไปยัง นายเดชา กิตติวิทยานันนท์ ทนายความ บอกว่า เรื่องนี้กรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นนายทะเบียนที่ออกใบอนุญาตขับขี่ ควรพิจารณาการออกใบอนุญาตขับขี่ใหม่หรือไม่ เพราะหลักเกณฑ์การออกใบขับขี่ ต้องดูว่ามีโรคต้องห้ามที่อาจเป็นอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่นหรือไม่

ถ้าเรารู้ว่าเราเป็นโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อการขับขี่ ขับไปแล้วอาจเกิดอาการวูบ อาการชัก ต้องไม่ขับ ที่ผ่านมาแนวทางตัดสินของศาล คนที่มีโรคประจำตัวและรู้อยู่แล้ว มีประวัติการรักษา ถือว่าเป็นการกระทำโดยประมาท เพราะเราสามารถป้องกันได้ด้วยการไม่ขับรถ ที่สำคัญเวลาใช้รถใช้ถนน นอกจากชีวิตของตนเองแล้ว ต้องคำนึงถึงชีวิตของคนอื่นด้วย เพราะบนท้องถนนไม่ได้มีรถเราแค่คันเดียว คนที่ขับรถบนถนนร่วมกับเรา เขามีพ่อมีแม่มีลูกที่ต้องกลับบ้านไปหา เพราะฉะนั้นอย่าประมาท อุบัติเหตุเกิดได้ตลอดเวลา พลาดแค่เสี้ยววินาที อาจหมายถึงชีวิตของใครอีกหลายคน

ทนายเดชา บอกว่า ดาราสาวประมาท เพราะรู้ว่าป่วยแต่ยังขับรถ พร้อมโยนการแก้ปัญหาเรื่องนี้ไปให้กรมการขนส่งทางบกให้เร่งแก้ไข ทีมข่าวได้สอบถามไปยังแหล่งข่าวกรมการขนส่งทางบก ยอมรับว่า ปัญหาของการให้อนุญาตใบขับขี่ในขณะนี้ คือการไม่ทราบว่าผู้ขับขี่ป่วย หรือมีโรคประจำตัว เพราะที่ผ่านมาการออกใบขับขี่จะขอแค่ใบรับรองแพทย์แบบธรรมดาเท่านั้น กรมการขนส่งทางบกจึงพยายามหาทางแก้ไข ด้วยการร่วมกับแพทยสภา ในการลิงก์ฐานข้อมูลของผู้มีใบขับขี่ ประวัติการรักษาโรคต้องห้าม เพื่อระงับและไม่อนุญาตให้ขับขี่ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมทาง

แต่เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ดังนั้นหนทางที่ปลอดภัยที่สุดคือ ตัวเราเอง ประชาชนผู้ขับขี่ทุกคนรู้ว่าตนเองมีความสามารถในการขับขี่หรือไม่ มีโรคประจำตัวหรือไม่ หากมีโรคประจำตัวก็ขอให้เลี่ยงการขับขี่รถบนท้องถนน เพื่อลดอุบัติเหตุ และเพื่อรักษาชีวิตของเพื่อนร่วมทาง

การพยายามเชื่อมโยงฐานข้อมูลประวัติโรคต้องห้าม อาการป่วยที่ห้ามขับขี่ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น เพราะเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีก่อน ช่อง 7HD เราก็พยายามผลักดันและสอบถามเรื่องนี้ เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุคนป่วยโรคลมชัก พุ่งชนรถ 7 คัน ที่เขตบางกอกน้อย กทม. ตำรวจต้องยิงยางรถสกัดเพื่อป้องกันความสูญเสีย แต่มาจนถึงวันนี้ 1 ปีผ่านไป ทำไมถึงยังเชื่อมต่อฐานข้อมูลไม่ได้อีก ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปพิจารณา อย่ารอให้เกิดการสูญเสียแล้วค่อยมาแก้ทีหลัง