ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

จับผู้ต้องหาต่อสายตรงลักใช้ไฟฟ้า ขุดบิตคอยน์

เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจ สน.ร่มเกล้า พร้อมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งย่านร่มเกล้า หลังพบมีการลักลอบใช้ไฟฟ้าสูงผิดปกติ เบื้องต้นพบการลักลอบใช้ไฟฟ้าต่อเครื่องขุดเงินสกุลดิจิทัล สร้างความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

การตรวจค้นครั้งนี้เริ่มจากที่ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ร่มเกล้า เมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ ว่าพบปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าสูงผิดปกติ และพบมีการลักลอบต่อสายไฟฟ้าเข้าไปในอาคารพาณิชย์ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยร่มเกล้า 44 เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ตำรวจจึงไปขอศาลออกหมายค้น ก่อนนำกำลังพร้อมเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ เข้าตรวจค้นร่วมกันที่อาคารหลังดังกล่าว

เมื่อไปถึงก็พบกับ นายธนธรณ์ อายุ 55 ปี เป็นผู้ดูแลอาคาร ได้พาเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้น หน้าบ้านมีการเดินสายไฟต่อตรงเข้าไปในอาคาร โดยมีการอำพรางฝ้าเพดาน 2 ชั้น ให้ยากต่อการมองเห็น ส่วนภายในบ้านชั้นล่าง เจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์เครื่องขุดบิตคอยน์ 91 เครื่อง เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า ส่วนชั้นที่ 2 และ 3 ปลูกผักเคล ซึ่งเป็นผักออแกนิกส์ที่ใช้ในการทำอาคารสุขภาพ ระหว่างการตรวจค้น ตำรวจไปสังเกตเห็น นายธนธรณ์ แสดงท่าทางมีพิรุธ คล้ายพยายามทิ้งสิ่งของบางอย่าง จึงต้องจับกุมตามกฎหมาย

สรุปแล้วที่ผู้ต้องหาพยายามทิ้งไปคือ เม็มโมรี่การ์ดของโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่ากลัวจะถูกดำเนินคดี เพราะมีภาพของตนเองอยู่ภายในนั้น

ขณะที่ พันตำรวจเอก กฤตภาส กิตติรัฐกรณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ยืนยันว่าไม่ใช่เจ้าของเครื่องมือ แต่ได้รับการว่าจ้างจากชาวต่างชาติ 2 คน คนหนึ่งเป็นสัญชาติมาเลเซีย อีกคนสัญชาติออสเตรเลีย จ้างให้มาคอยดูแล ซึ่งทำมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 โดยจะได้รับค่าจ้างจากการนำผักเคล ที่ปลูกอยู่ที่ชั้นบนของอาคารไปขาย ได้เงินประมาณเดือนละ 20,000 บาท จากข้อมูลการสืบสวน คาดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ มีความผิด เพราะว่าลักลอบใช้ไฟฟ้า

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประเมินว่าในแต่ละเดือน จะมีการใช้ไฟฟ้าคิดเป็นเงินเดือนละประมาณ 207,000 บาท เมื่อนำไปคำนวนกับการลักลอบใช้ไฟฟ้าประมาณ 3 ปี เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ และกำลังขยายผลเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark