ปิดร้านไปเชียร์ฟุตบอล ถูกขโมยงัดร้าน จ.อุดรธานี

เช้านี้ที่หมอชิต - มีเหตุหัวขโมยงัดร้านขายของชำเข้าไปขโมยเงินในร้านเกือบ 10,000 บาท คนร้ายก่อเหตุในคืนที่เจ้าของร้านปิดร้านกลับบ้านไปเชียร์ฟุตบอลโลก แต่งานนี้ไม่แน่ใจว่าหัวขโมยรอจังหวะอยู่ หรือ เป็นเพียงเหตุบังเอิญ

ร้านขายของชำที่ถูกหัวขโมยงัดร้าน อยู่ในชุมชุนศรีพินิจ ตำบลหมากแข้ง เทศบาลนครอุดรธานี ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานีไปตรวจสอบ โดยนายนิรัญ เปรมประชา เจ้าของร้าน พาตำรวจไปดูร่องรอยงัดแงะที่ประตูร้าน จนกระทั่งกลอน และลูกบิด พังเสียหาย และพาไปดูร่องรอยรื้อค้นที่โต๊ะทำงาน ซึ่งนายนิรัญบอกว่า ธนบัตรฉบับละ 20 บาท ไปจนถึง 500 บาท  จำนวนรวมกว่า 8,000 บาท หายไป เหลือแต่เงินเหรียญที่เอาไว้ทอนเงินให้ลูกค้า ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ ที่อยู่ในร้าน คนร้ายไม่แตะเลย  เน้นเอาเฉพาะเงินสดเท่านั้น 

นายนิรัญ บอกว่า ตนเองปิดร้านกลับบ้านไปเชียร์ฟุตบอลโลก พอรุ่งเช้าก็มาเปิดร้านตามปกติ แต่พอมาถึงก็พบว่าประตูข้างร้านถูกงัดแงะ ก็เลยแจ้งตำรวจมาตรวจสอบเก็บหลักฐาน และยังบอกอีกว่า ตอนที่ตนเองสำรวจทรัพย์สินในร้าน ก็ไปพบว่าปลั๊กไฟที่ต่อไปยังกล้องวงจรปิด ถูกถอดออกหมด ก็เชื่อว่าหัวขโมยอาจสวมรอยมาเป็นลูกค้า ดูลาดเลาจนรู้ลู่ทางก่อนจะก่อเหตุ ซึ่งตั้งแต่เปิดร้านขายของมาเกือบ 30 ปี จนจะเลิกขายในเร็ว ๆ นี้ ร้านไม่เคยถูกก่อเหตุเลย เชื่อว่าน่าจะเป็นพวกติดยาเสพติด ย้ำว่าอยากดูหน้าว่าเป็นใคร และขอให้ตำรวจจับตัวให้ได้เร็ว ๆ

ระหว่างที่ตำรวจตรวจสอบในละแวกร้านชำที่ถูกคนร้ายก่อเหตุ ก็ไปพบกระเป๋าถือสตรี ไขควง และกุญแจอีก 4 ดอก ถูกทิ้งอยู่ข้างทาง ข้างในมีบัตรพนักงานของศูนย์บริการเติมเงิน ซึ่งอยู่ไม่ไกล ตำรวจจึงไปตรวจสอบ นายกิตติคุณ ศรีทะหา ผู้ดูแลศูนย์ฯ จึงได้นำตำรวจไปดูตู้เติมเงินที่อยู่หน้าร้าน ซึ่งมีร่อยรอยถูกงัด เงินในตู้เติมเงินยังอยู่ครบ แต่คนร้ายกลับไปพบกุญแจไขประตูศูนย์บริการที่ตนเองซุกเอาไว้ เพื่อให้ช่างของทางศูนย์ใช้ไขเปิดประตูเข้าไปทำงานในตอนเช้า คนร้ายจึงไขเข้าไปขโมยเอาคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก ราคาประมาณ 20,000 บาทไป เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกับที่ก่อเหตุงัดร้านขายของชำ โดยน่าจะมาก่อเหตุที่ศูนย์บริการเติมเงินก่อนจะไปงัดร้านขายของชำ