ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

บุกค้น 35 จุด เครือข่ายจินหลิง

เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจสนธิกำลังบุกเข้าตรวจค้นสถานบันเทิงที่กลุ่มคนจีนที่เป็นเจ้าจอง ในเครือข่ายท็อปวันจินหลิง และ Club One Pattaya รวม 7 จังหวัด 35 จุด หวังกวาดล้างอาวุธปืน สารเสพติด รวมไปถึงบ่อนการพนัน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติย้ำหากฝ่าฝืนอาจถูกสั่งปิด 5 ปี ยอมรับการตรวจค้นครั้งนี้พบผู้เสพน้อย ขณะที่การดำเนินคดีกับตำรวจ สน.ยานนาวา ปล่อยให้คนจีนได้รับการประกันตัวจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า ยืนยันไม่มีการละเว้น

ปฎิบัติการตรวจค้นสถานบันเทิงกลุ่มที่มีชาวจีนเป็นเจ้าของในเครือข่ายท็อปวันจินหลง และคลับโดม เป็นการตรวจค้นตามหมายศาลอาญา 7 จังหวัด ทั้งหมด 35 จุด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร 17 จุด, ชลบุรี 11 จุด, สมุทรปราการ 2 จุด, ชุมพร 2 จุด, นนทบุรี 1 จุด, สมุทรสาคร 1 จุด และขอนแก่น 1 จุด

โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีด้วยกัน 5 จุดหลัก คือพื้นที่มักกะสัน ได้แก่ K Bangkok, Space + ส่วนพื้นที่ห้วยขวาง มี 3 จุด คือ Hollywood, Brooz และ Asgard พื้นที่สุดท้ายคือ คลองตัน คือ Baby Face

โดยมี พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุวิมล และ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งสายปราบปรามและสืบสวน ลงไปติดตามประเมินความคืบหน้าในการบุกเข้าค้นสถานประกอบการทั้ง 5 แห่ง

ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่าสถานประกอบการเหล่านี้เป็นกลุ่มเครือข่ายของธุรกิจที่มีทุนจีนเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยประกอบกิจการในลักษณะของสถานบันเทิงที่เปิดให้บริการเฉพาะกลุ่มชาวจีนเท่านั้น ลักษณะไม่ได้แตกต่างจากที่มีการดำเนินการจับกุมในย่านยานนาวา

โดยในช่วงเวลา 23.30 น. กำลังเจ้าหน้าที่ได้เริ่มรวมตัวรับมอบภารกิจที่สโมสรตำรวจถนนวิภาวดีรังสิต ก่อนที่จะกระจายทีมเข้าตรวจค้น ซึ่งภายในทีมนอกจากจะมีกำลังเจ้าหน้าที่สายสืบเป็นหลักแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานนำอุปกรณ์ในการตรวจหาสารเสพติดเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ด้วย

ส่วนในพื้นที่ปริมณฑลและย่านธุรกิจท่องเที่ยวกำลังเจ้าหน้าที่เริ่มปฏิบัติการเข้าตรวจค้นช่วงฟ้าสาง

โดยจุดแรกที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นคือ Baby Face ซึ่งอยู่ย่านเอกมัย เป็นผับขนาดใหญ่ ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าตรวจค้นยังพบว่ามีนักท่องเที่ยวเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดไฟและขอเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ได้นำชุดตรวจสารเสพติดออกมาวางโดยให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแสดงตนและรับชุดตรวจสารเสพติดไปตรวจ 

จากนั้นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เดินทางต่อไปยัง แอสการ์ด บาร์โฮส อันดับหนึ่งซึ่งอยู่ย่านเหม่งจ๋าย ก็ยังพบนักท่องเที่ยวเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน เนื่องจากเป็นคืนวันฮาโลวีน

โดยผลการตรวจค้นเบื้องต้นพบมีนักท่องเที่ยวปัสสาวะเป็นสีม่วงเพียง 2-3 รายต่อแห่งเท่านั้น ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติย้ำว่านี่เป็นการเตือนครั้งที่หนึ่ง หากยังมีการฝ่าฝืนอีกท้องที่จะต้องร่วมรับผิดชอบปล่อยประละเลย และเจ้าของสถานประกอบการก็เสี่ยงที่จะต้องถูกสั่งปิด 5 ปี

ขณะที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ยืนยันว่าการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถานบริการย่านยานนาวาคืบหน้าไปมาก คาดว่าสัปดาห์หน้าจะสามารถดำเนินการกับนักลงทุนชาวจีนได้หมด ไม่เว้นแม้กระทั่งอักษรย่อ ต ที่ถูกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กล่าวอ้างถึง ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปมีส่วนทำให้นายทุนจีนได้รับการประกันตัวก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark