บิ๊กป้อม ฟิตจัด ลงพื้นที่ตลอดเดือนกันยายน
เช้านี้ที่หมอชิต - หลังปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ต้องเรียกว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ใช้ใจบันดาลแรงจริง ๆ คือ นอกจากหน้าตาจะอิ่มเอิบแล้ว ยังมีแรงลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง วางงานยาวตลอดเดือนนี้เลยทีเดียว
เพจ Facebook ชื่อ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เผยภารกิจรักษาราชการนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการแบบรัว ๆ ในช่วงเดือนกันยายนเพื่อดูการบริหารจัดการน้ำ 3 จังหวัด เริ่มในวันนี้ 5 กันยายน ไปที่จังหวัดกระบี่, วันที่ 12 กันยายน ลงพื้นที่จังหวัดตาก และวันที่ 19 กันยายน ไปที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อปฏิบัติภารกิจทั้งในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และ รองนายกรัฐมนตรีควบคู่กันไป โดยเฉพาะงานส่วนที่รองนายกรัฐมนตรีรับผิดชอบ เช่น ปัญหาแรงงาน ปัญหาเกษตรกรชาวสวนปาล์ม การบริหารจัดการน้ำ การบริหารจัดการที่ดิน การแก้ปัญหาด้านที่ดินทำกินให้เกษตรกรและคนยากจน และการคืนโฉนดอนุญาตทำประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 เป็นต้น
ส่วน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเข้าปฏิบัติภารกิจที่กระทรวงกลาโหม ตามปกติ
ขณะที่พรรคการเมืองหลายพรรคก็คึกคักไม่แพ้กัน ลงพื้นที่พบปะประชาชนเตรียมเลือกตั้งในอนาคต อย่าง พรรคสร้างอนาคตไทย นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค พาทีมงานลงพื้นที่ย่านบางคอแหลม ระบุ จะส่งผู้สมัคร สส. ครบทุกเขตในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเร่งลงพื้นที่แนะนำตัว และนโยบาย ส่วนจะชู นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ยังต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่นด้วย แต่ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรควันที่ 7 กันยายนนี้ จะเสนอให้ นายสมคิด เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค พร้อมย้ำว่า แม้ภายในพรรคจะรวมตัวกันของนักการเมืองจากหลายขั้ว แต่จะไม่มีปัญหาในการทำงานแน่นอน
ส่วน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย นำทีมคาราวานลดค่าครองชีพ ลงพื้นที่เขตราชเทวี จัดกิจกรรมจิตอาสา ชูนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท กองทุนหนี้เสียเพื่อเอสเอ็มอี หวังเป็นตัวเลือกให้กับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยพรรคเตรียมแถลงข่าว ประกาศความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้ง ในวันที่ 9 กันยายนนี้ ก่อนจัดประชุมใหญ่ เลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค แต่จะยังไม่ขอเปิดรายชื่อบุคคลที่จะเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ด้าน พรรครวมไทยสร้างชาติ นำโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ร้องเรียนว่า เข้าถึงแหล่งทุนในการประกอบธุรกิจได้ยาก เกิดปัญหาหนี้นอกระบบ และมีความเหลื่อมล้ำระหว่างทุนขนาดใหญ่และเอสเอ็มอี ซึ่ง นายพีระพันธุ์ ย้ำว่า คณะทำงานของพรรคได้เดินหน้าปรับปรุงกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับภาคธุรกิจแล้ว และหากได้รับการเลือกตั้ง ก็พร้อมจะเสนอร่างกฎหมายให้สภาฯ พิจารณาทันที โดยไม่รีรอ
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ คือ กรณีรับกล้วยของพรรคเล็ก มีความคืบหน้าในการตรวจสอบด้วยเหมือนกัน หลัง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องร้องต่อ กกต. ให้ไต่สวน สอบสวนเอาผิด สส. ที่มีหลักฐานว่ารับเงินหรือทรัพย์สินจากบุคคลอื่น โอนผ่านบัญชีธนาคารเดือนละกว่าแสนบาทนั้น ล่าสุด สำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย 3 กกต. มีหนังสือเรียกให้ทางสมาคมฯ ไปให้ถ้อยคำประกอบคำร้องในวันนี้ (5 ก.ย.)
คำร้องนี้ สืบเนื่องมาจากกรณีไลน์หลุดที่มีเนื้อหาและภาพที่ระบุให้เห็นว่า มี สส.พรรคเล็ก รับเงินจากบุคคลซึ่งไม่ปรากฏชื่อ และมีภาพหลักฐานสลิปการโอนเงินที่จ่ายกันเป็นรายเดือน เดือนละ 100,000 บาท พฤติการณ์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่ห้ามบุคคลภายนอกครอบงำพรรค ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม โดยมีโทษถึงขั้นยุบพรรค