คอลัมน์หมายเลข 7 : DSI ยึดรถหรูผิด กม. อีก 4 คัน พบเจ้าของเป็นภรรยาตำรวจใหญ่
ข่าวภาคค่ำ - คอมลัมน์หมายเลข 7 ตามต่อคดีรถหรู นับถอยหลังอีก 5 ปีก่อนหมดอายุความ ล่าสุดดีเอสไอได้สรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณาสั่งฟ้องเพิ่มเติมอีก 43 คดี ขณะคดีที่เหลือจะเป็นไปตามกรอบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมขีดเส้นตาย 31 สิงหาคมนี้หรือไม่ ไปติดตามกับคุณรัตนกรณ์ โต๊ะหมัด
รถหรูกว่า 9,000 คัน ที่ดีเอสไอต้องตรวจสอบเพื่อเรียกภาษีหมื่นล้านกลับคืนแผ่นดิน วันนี้ผ่านมา 10 ปี แล้ว เหลือเวลาสางคดีอีกแค่ 5 ปี ที่ต้องเร่งสอบให้ทันก่อนเวลาหมดอายุความ เพื่อไม่ให้ภาษีที่จะนำไปพัฒนาประเทศต้องสูญไป โดยเฉพาะรถหรู 1,428 คัน ที่กรมศุลกากรสรุปผลประเมินอากรขาด รถหรู 1,020 คัน 114 คดี ที่อยูในมือ พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนฯ คดีรถหรู มีค่าปรับเมื่อคิดที่อัตราสูงสุดอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสั่งเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 31 สิงหาคมนี้
ผ่านไป 6 เดือน ล่าสุดคดีในมือ พ.ต.ท.พเยาว์ สอบเสร็จแล้ว 43 คดี จาก 114 คดี มีการแจ้งข้อกล่าวหากับ 64 บุคคล และได้ส่งให้อัยการพิจาณาส่งฟ้องศาลแล้ว ส่วนคดีในมือของกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 280 คดี สรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณาสั่งฟ้องแล้ว 182 คดี อยู่ระหว่างสอบ 98 คดี โดยดีเอสไอยอมรับอาจสอบไม่เสร็จตามกรอบที่วางไว้ เนื่องจากเมื่อเจาะลึกไปแล้วในทางคดี ยังพบปมฉ้อฉลอีกไม่น้อย จึงต้องดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างรัดกุมเพื่อลากตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้
หลังจากการตรวจสอบของดีเอสไอพบกลโกงรถหรูเลี่ยงภาษี ไม่ใช่แค่บริษัทผู้นำเข้า แต่เป็นเจ้าของโชว์รูมรถหรูกว่าครึ่งใน 114 คดี มีลักษณะการกระทำความผิดแบบนอมินี และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาดีเอสไอขออำนาจศาลเข้าตรวจค้นรถลักจำนวน 35 คัน แต่ผลการตรวจสอบกลับพบว่ารถหรู 5 คัน มีการสวมทะเบียน เบื้องต้นได้ยึดอายัดเพื่อตรวจสอบที่มาที่ไป นอกจากนี้ยังยึดคืนรถหรู 4 คัน ซึ่งนำเข้าจากอังกฤษ ที่ก่อนหน้าดีเอสไอเคยปล่อยของกลางคืนเจ้าของที่ซื้อถูกกฎหมายไป จนล่าสุดอังกฤษได้ส่งหลักฐานว่าเป็นรถที่ถูกขโมยมา และต้องการให้นำส่งกลับคืนเจ้าของที่แท้จริง ซึ่งจากการตรวจสอบรถหรูทั้ง 4 คัน พบเป็นของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับท็อป 5 ของประเทศ รวมถึงภรรยาของอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับชั้นผู้บัญชาการ
ทั้งนี้มีรายงานว่าดีเอสไอได้ขยายผลกรณีจับกุมเจ้าพ่อนำเข้ารถหรู นายอินทระศักดิ์ หรือ บอย ยูนิตี้ พบข้อมูลมีรถหรูจำนวน 38 คัน ที่เข้าจอดในเขตปลอดภาษีอากร แต่กลับใช้เล่ห์เหลี่ยมนำรถหรูทั้ง 38 คัน ออกมาโดยไม่จ่ายภาษีแม้แต่แดงเดียว และมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรไปแจ้งความไว้ที่ สภ.แหลมฉบัง เรื่องนี้คอลัมน์หมายเลข 7 สอบถามไปยังกรมศุลกากร ให้ข้อมูลว่าประเด็นดังกล่าวต้องรอให้ดีเอสไอแทงเรื่องมาก่อน แต่ยืนยันไม่ป้องคนผิด หากพบใครเอี่ยวต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
10 ปีคดีรถหรู ยิ่งสาว ยิ่งฉาว ยิ่งเจาะลึก ยิ่งส่งกลิ่น พัวพันทั้งเจ้าหน้าที่ในหลายหน่วยงานร่วมด้วยช่วยเหลือคนโกง ฉ้อฉลภาษีประชาชน จนถึงขณะนี้ยังไร้วี่แววทวงคืนภาษีหมื่นล้านกลับคืนสู่แผ่นดิน เป็นงานหนักที่ข้าราชการน้ำดีต้องเร่งพิสูจน์ว่ากระบวนการยุติธรรมตั้งต้นยังเชื่อถือได้