ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

คอลัมน์หมายเลข 7 : DSI เร่งสางคดีรถหรู บอย ยูนิตี้ นำภาษีกลับคืนแผ่นดิน

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ ไปดูความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้นำเข้ารถหรูเลี่ยงภาษี อย่างบอย ยูนิตี้ หลังจากถูกตำรวจสอบสวนกลางจับกุมตัวได้แล้ว พบมีคดีติดตัวมากกว่า 14 คดี และในจำนวนนี้คือการหลบเลี่ยงภาษีนำเข้ารถหรู ขั้นตอนการดำเนินทวงคืนภาษีแผ่นดินหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร คุณรัตนกรณ์ โต๊ะหมัด ไปหาคำตอบมาให้แล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2555 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พบความผิดปกติของการนำเข้ารถยนต์หรูเข้ามาในราชอาณาจักรนับพันคัน มีการหลีกเลี่ยงภาษีอากร โดยพบว่าบริษัทผู้นำเข้ารถยนต์ ระบุราคาสินค้าในใบขนสินค้าขาเข้า ที่ผู้นำเข้าต้องแสดงต่อกรมศุลกากร เพื่อเสียภาษีอากร มีการสำแดงราคาต่ำกว่าราคาเป็นจริง ซึ่งราคาโดยเฉลี่ยที่ผู้นำเข้าสำแดง คือ ไม่เกินร้อยละ 40 ของราคารถยนต์ ที่บริษัทผู้ผลิตในประเทศต้นกำเนิดรถยนต์จำหน่าย 

18 พฤษภาคม 2560 พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในขณะนั้น ได้มอบหมายให้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เข้าค้นสถานที่เป้าหมายจำนวน 9 แห่ง สามารถอายัดรถยนต์ได้จำนวน 122 คัน จาก 5 จุดตรวจค้น เช่น ลัมโบกินี, แมคลาเรน, โลตัส ซึ่งภาษีที่ขาดโดยเฉลี่ยต่อคันประมาณ 10-18 ล้านบาท รวมแล้วทำให้รัฐเสียหายเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 2,400 ล้านบาท

คดีนี้ใช้ระยะเวลาในการสืบสวนสอบสวนนาน เพราะเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะกรมศุลกากร ซึ่งได้มีการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยการย้ายให้ไปปฎิบัติหน้าที่ในส่วนอื่น และยังมีการออกหมายจับไปอีกหลายหมายจับ

ล่าสุด ตำรวจสอบสวนกลางได้จับกุม นายอินทระศักดิ์ หรือ บอย ยูนิตี้ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหา ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำความผิดตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน (หลบหนีไม่มาตามนัดศาล) ซึ่งคดีดังกล่าว ศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา

สำหรับพฤติการณ์ ของ บอย ยูนิตี้ เจ้าของกิจการเต็นท์รถชื่อดังย่านสุขุมวิทและรัชดา จะลักลอบนำเข้ารถซูเปอร์คาร์และรถหรูที่มีราคาสูง ด้วยวิธีการหลบเลี่ยงการชำระภาษี สำแดงราคารถยนต์ให้ต่ำกว่าราคาตามท้องตลาด, แจ้งรุ่นรถยนต์ที่นำเข้ามาต่อเจ้าหน้าที่ ให้มีราคาต่ำกว่ารุ่นรถยนต์ที่แท้จริง, ลักลอบนำเข้ารถยนต์ในประเทศและนำมาขึ้นทะเบียนเป็นรถจดประกอบ

จากนั้นได้นำรถที่นำเข้ามาไปขายให้กับผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง และนักการเมือง ซึ่งต่อมาเมื่อผู้ซื้อนำรถไปขึ้นทะเบียน กลับไม่สามารถจดทะเบียนอย่างถูกต้องได้ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาครัฐ กรณีที่หลบเลี่ยงภาษีอากรในการนำเข้า และประชาชนที่ซื้อรถไปไม่สามารถนำรถไปขึ้นทะเบียนที่ กรมการขนส่งทางบก อย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ 

จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่า มีหมายจับในความผิดอื่น ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร (เลี่ยงภาษีอากร), พ.ร.บ.เช็ค, ประมวลกฏหมายอาญา (ฉ้อโกง, บุกรุก, ลักทรัพย์) รวมจำนวนอีก 14 หมายจับ

การจับตัว บอย ยูตี้ มารับโทษได้ ไม่เพียงเป็นการนำคนผิดมาลงโทษ แต่ยังเป็นจุดเชื่อมในการขยายผลทางคดีเพิ่มเติมอีกด้วย มีความคืบหน้าอย่างไร เราจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark