คอลัมน์หมายเลข 7 : DSI ไม่ปกป้องคนผิด หลัง ป.ป.ท.พบทีมสางรถหรูรวยผิดปกติ

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 ตามต่อคดีรถหรู หลัง ป.ป.ท.มีหนังสือให้สอบ 2 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่สางคดีรถหรู เข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ เรื่องนี้ดีเอสไอจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างไร คุณรัตนกรณ์ โต๊ะหมัด ไปหาคำตอบมาให้แล้ว

กลายเป็นเรื่องร้อนหลังสื่อมวลชนเผยแพร่เอกสาร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ที่ส่งถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้ตรวจสอบ 2 เจ้าหน้าที่ระดับสูง ผู้ทำคดีรถหรูเลี่ยงภาษี หลังพบมีพฤติการณ์ประพฤติมิชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและร่ำรวยผิดปกติ พร้อมแนบเอกสาร 3 ประเด็นที่ต้องการหาคำตอบ เพื่อทำการสอบสวนถึงข้อเท็จจริงว่า บุคคลที่ถูกร้องเรียน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสังกัดใด มีอำนาจหน้าที่อย่างไร บุคคลถูกร้องเรียนเคยได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการทำคดีรถหรูหรือไม่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เคยได้รับเรื่องร้องเรียนบุคคลดังกล่าวทุจริตต่อหน้าที่ หรือร่ำรวยผิดปกติจากการทำคดีรถหรูหรือไม่ อย่างไร หากมี ขอทราบผลการดำเนินการว่าเป็นประการใด

คอลัมน์หมายเลข 7 สอบถามข้อเท็จจริงไปยังดีเอสไอ ให้ข้อมูลว่าได้ส่งเอกสารชี้แจงกลับไปยัง ป.ป.ท. แล้ว แต่ไม่สามารถระบุรายละเอียดในข้อเท็จจริงได้ ต้องรอให้ ป.ป.ท. ดำเนินการสอบสวนก่อน แต่ยืนยันได้ว่า ดีเอสไอ ไม่ป้องคนผิด หากพบว่ามีส่วนทุจริตต่อหน้าที่ ทางอธิบดีดีเอสไอ ฟันไม่ยั้ง

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ผู้สางรถหรู ถูกหน่วยงานรัฐตรวจสอบว่ามีพฤติการณ์ประพฤติมิชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ก่อนหน้านี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เคยแทงเรื่องให้ดีเอสไอชี้แจงมาแล้ว เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่า มีเจ้าหน้าที่สางรถหรูบางรายละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ปมใช้ดุลพินิจสั่งคืนรถยนต์ของกลางให้ผู้ครอบครองกว่า 20 คัน ทำให้รัฐเสียหายเกือบ 500 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทาง ป.ป.ช.อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีมูลเข้าข่ายความผิดหรือไม่ หรือการดำเนินการดังกล่าวชอบด้วยหน้าที่แล้ว

นับแต่เกิดเหตุคดีรถหรูผ่านมาเป็นสิบปี การดำเนินคดียังล่าช้า เงินภาษีนับหมื่นล้านบาท ยังเอาคืนแผ่นดินไม่ได้ ข้อสงสัยเจ้าหน้าที่มีเอี่ยว จึงเป็นคำถามตามติดมาตลอด เมื่อพบมีมูลพัวพันไปถึง 2 เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ต้องเร่งล้างบ้าน เรียกคืนศรัทธาจากประชาชน