สะพานกลับรถถล่ม บทเรียนราคาแพงบนความรับผิดชอบ

ข่าวสังคม 2 สิงหาคม 2565 - สนามข่าว 7 สี - หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ คานสะพานลอยกลับรถถล่มลงมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน ล่าสุด มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และให้กรมทางหลวงรายงานภายใน 14 วัน เรื่องนี้ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดใจกับทีมสนามข่าว 7 สี ว่ารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คานสะพานลอยกลับรถหล่นบนถนนพระราม 2 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยกับทีมสนามข่าว 7 สี ว่า การดำเนินการซ่อมแซมสะพานลอยกลับรถดังกล่าว ดำเนินการโดย ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) ดำเนินการซ่อมแซมมาตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน กำหนดแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ โดยรายละเอียดการซ่อมแซม ประกอบด้วยการทุบรื้อพื้นสะพาน และเปลี่ยนพื้นใหม่ จำนวน 2 ช่วง งานสกัดโครงสร้างสะพานที่เสียหาย ส่วนที่อยู่บนคานคอนกรีตอัดแรง รวมทั้งบริเวณพื้นที่ส่วนของทางขึ้นทางลง โดยสะพานลอยกลับรถดังกล่าวมีอายุการใช้งานมานานกว่า 29 ปี จึงมีความจำเป็นต้องซ่อมแซม

ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เบื้องต้น กรมทางหลวง และ สภาวิศวกร จะลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง และนอกจากนั้นก็มีการตั้งกรรมการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง วิเคราะห์สาเหตุที่เกิดขึ้นโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ให้รายงานผลภายใน 14 วัน และให้ระงับการซ่อมแซมโครงสร้างสะพานกลับรถนี้ รวมทั้งปิดการจราจรช่องทางหลักขาเข้าไว้ก่อน จนกว่าจะมีความมั่นใจในความปลอดภัย

และได้สั่งการให้ตรวจสอบขั้นตอนการทำงาน วัสดุชิ้นส่วนงานก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องจักร และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ให้มีความพร้อม หากพบว่าส่วนใดส่วนหนึ่งไม่พร้อม ไม่ปลอดภัย ให้หยุดงานก่อสร้างทันที หากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าเกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่ระดับไหนก็ตาม จะลงโทษทางวินัย และความผิดทางละเมิดจะให้ชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย

ส่วนประเด็นที่ไม่มีการปิดการจราจรนั้น เนื่องจากโครงการอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเทพื้นสะพานใหม่ จึงไม่มีการปิดจราจร แต่มีการวางแนวกั้นพื้นที่ก่อสร้างตามขั้นตอนก่อสร้างแล้ว นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวจะปิดการจราจรก็ต่อเมื่ออยู่ในขั้นตอนเทพื้นสะพาน หรือมีการยกคาน หรือวางคานสะพาน ซึ่งจะเป็นการเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายกับผู้สัญจร

ส่วนกรณีที่ว่ารถบรรทุกใช้สะพานนี้บ่อย และเคยเกิดเหตุรถบรรทุกน้ำมัน 18 ล้อ พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้สะพานนี้นั้น เหตุการณ์รถบรรทุกเกิดขึ้นเมื่อปี 2547 จนถึงปัจจุบันรวม 18 ปีแล้ว ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้นได้ปรับปรุงซ่อมแซมแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัยในการใช้งาน และยืนยันว่า ทีมงานทุกคนมีความชำนาญการเป็นอย่างดี แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาก็ต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้

ส่วนกรณีเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต กรมทางหลวง ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ และยืนยันว่า พร้อมที่จะรับผิดชอบเยียวยาให้กับผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่ และขออภัยประชาชนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้

ท้ายที่สุด อธิบดีกรมทางหลวง ยืนยันว่า ที่ผ่านมากรมทางหลวงได้เน้นย้ำเรื่องมาตรการความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุด เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับผลกระทบ ครั้งนี้นับเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่กรมทางหลวงจะต้องทบทวนและพิจารณามาตรการเสริมความปลอดภัยด้านต่าง ๆ เพิ่มเติมมากขึ้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจก่อนจะเริ่มงานโครงการต่อไป พร้อมกำชับทุกโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างที่มีประมาณ 200 กว่าโครงการ ให้ตระหนักถึงเหตุการณ์นี้ เพิ่มความปลอดภัยในการดำเนินงานอย่างรอบคอบทุกมิติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก