คอลัมน์หมายเลข 7 : เดิมพันครั้งสุดท้าย ฝ่ายค้าน-พรรคเล็ก

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 เกาะติดการเมืองอาทิตย์นี้ ชวนท่านผู้ชมไปตรวจแนวรบทั้งฝ่ายค้านและพรรคเล็ก มีอะไรที่เรียกได้ว่าเป็นเดิมพันครั้งสุดท้ายเหมือนกัน ติดตามกับคุณสมจิตต์ นวเครือสุนทร

นับถอยหลังไปอีกไม่กี่เดือนรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ ที่เคยถูกปรามาส อาจอยู่ไม่ถึงหนึ่งปี ก็ใกล้จะครบวาระ 4 ปีแล้ว กับคำประกาศของนายกรัฐมนตรี จะประคองให้รัฐนาวานี้ แล่นบนเส้นทางอำนาจจนครบวาระ โดยไม่หวั่นศึกซักฟอกที่กำลังจะเกิดขึ้น

แต่ต้องบอกว่างานนี้อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะเป็นเดิมพันสุดท้ายของฝ่ายค้าน ที่ต้องงัดทุกกลยุทธ์ ขุดทุกปมปัญหา ตามยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน แบบเต็มกำลัง เพราะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายแล้ว จะฝากฝีมือได้แค่ไหน หรือเป็นได้แค่ราคาคุย มีแต่ฝ่ายค้านเท่านั้นที่ต้องเป็นคนให้คำตอบ

ส่วน ผู้กองธรรมนัส ที่เพิ่งรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยไปหมาด ๆ จะฝากกรงเล็บ ได้เจ็บแสบแค่ไหน 9 รัฐมนตรีรวมนายกฯ อาจมีหนาว ๆ ร้อน ๆ แต่คนที่สบายตัวคือ บิ๊กป้อม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพราะลูกน้องเก่าประกาศชัด ยังปกป้องนาย

เป็นความกังวลของพรรคเล็กที่รวมตัวกัน ดิ้นเฮือกสุดท้าย หวังเปลี่ยนวิธีการคำนวณ สส. จากที่เคาะเอาตัวเลข 100 หารจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง เป็นจำนวนเสียงของ สส.พึงมี มาเป็นใช้ 500 เป็นตัวหาร เพื่อให้ค่าเฉลี่ยของจำนวนเสียงลดลง เพิ่มโอกาสพรรคเล็กเข้าสภาได้มากขึ้น ถือเป็นเดิมพันครั้งสุดท้าย ถ้าแพ้โอกาสกลับสภา ก็อาจไกลเกินเอื้อม

แถมพรรคเกิดใหม่ไม่ว่าจะเป็นพรรคกล้า ของกรณ์ จาติกวณิช, ไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์, สร้างอนาคตไทย ที่ชู สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นนายกรัฐมนตรี, เศรษฐกิจไทย ของผู้กองธรรมนัส หรือ โอกาสไทย ของมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ล้วนต้องเล่นท่ายากตามไปด้วย เพราะการที่พรรคเกิดใหม่จะได้คะแนนเป็นกอบเป็นกำ หรือดัน สส. เข้าสภาแบบปัดเศษ เหมือนเมื่อครั้งเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ดูเหมือนจะหืดขึ้นคอ

กว่าจะถึงวันเลือกตั้งใหม่ ไม่ว่าจะมีอุบัติเหตุทำให้เกิดเร็วกว่ากำหนด หรือมาตามวาระ เดิมพันครั้งสุดท้ายนี้ อาจไม่ใช่โอกาสของพรรคเล็กและพรรคเกิดใหม่