คอลัมน์หมายเลข 7 : ดีเอสไอ ลุยตรวจค้นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม จ.กระบี่

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 ตามติดความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตการบริหารชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ล่าสุด ดีเอสไอ ลุยตรวจค้นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม กระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัด ในพื้นที่ตำบลคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เกี่ยวพันกับขบวนการทุจริตที่เกิดขึ้นอย่างไร ติดตามจากคุณสมจิตต์ นวเครือสุนทร

ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา คอลัมน์หมายเลข 7 เจาะปัญหาการทุจริตในชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ ซึ่งพบว่าคณะกรรมการบริหารชุดที่ 19, 20 และ 21 บริหารงานจนเกิดความเสียหาย เป็นเหตุให้ต้องประกาศหยุดกิจการชั่วคราว เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 และต่อมาไม่นาน ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานกว่า 300 ชีวิต เนื่องจากแบกรับภาระค่าจ้างที่ยังคงค้างจ่ายอยู่ไม่ไหว

รูปแบบการทุจริต เริ่มจากคณะผู้บริหารทำการปรับเปลี่ยนนโยบาย เปิดรับซื้อผลปาล์มจากบริษัทเอกชนเพิ่ม นอกเหนือจากการรับซื้อผลปาล์มกับเกษตรกรสมาชิก โดยอ้างว่าเพื่อให้การรับซื้อและขายส่งเป็นไปตามแผน ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เอื้อประโยชน์ขายน้ำมันปาล์มดิบให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ไปแปรรูปเป็นน้ำมันบรรจุขวด จนทำให้เกิดยอดขายค้างจ่ายสะสม เป็นจำนวนเงินเกือบ 400 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังแทรกแซงการทำงานในหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และจัดตั้งบริษัทนอมินีขึ้นมา ทำธุรกรรมการค้า ขนส่งน้ำมัน ร่วมกับชุมนุมสหกรณ์ โดยทำสัญญาผูกขาดหลายปี ซึ่งต่อมาดีเอสไอก็พบความผิดปกตินี้ และเข้าตรวจสอบอย่างเข้มข้น มีการลงพื้นที่หลายครั้ง

จากข้อมูลดังกล่าว ดีเอสไอ ขยายผลเข้าตรวจค้นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม กระบี่วิเศษน้ำมันปาล์ม จำกัด ในพื้นที่ตำบลคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ หลังพบว่าน่าจะเป็นการครอบครอง หรือได้มาโดยมิชอบ เนื่องจากเป็นทรัพย์สินของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด มาก่อน และผู้บริหารบริษัทฯ ส่วนใหญ่ ก็เป็นอดีตผู้บริหารของชุมนุมหสกรณ์ฯ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายเป็นคณะผู้บริหารเอื้อประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้อง จนส่งผลให้ผู้ถือหุ้นสหกรณ์ที่เป็นเกษตรกรชาวสวนปาล์ม มากกว่า 50,000 ราย ได้รับความเสียหาย

เป็นอีกคดีที่คอลัมน์หมายเลข 7 เกาะติดมาตั้งแต่ต้น และดีเอสไอเดินหน้าตรวจสอบอย่างจริงจัง จนคาดว่า จากหลักฐานทั้งหมดในขณะนี้ มีแนวโน้มว่าจะสามารถออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตได้ในเร็ว ๆ นี้