Snowpiercer (2013) ภาพยนตร์เสียดสีโลกทุนนิยม พล็อตเรื่องสุดล้ำ หนึ่งในผลงานสร้างชื่อระดับฮอลลีวูดของ บงจุนโฮ (Bong Jun Ho) ผู้กำกับชาวเกาหลีใต้ กับผลงานสร้างชื่อในการกำกับหนังเรื่อง Parasite (2019) เป็นประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในเวทีออสการ์ โดย Snowpiercer (2013) ก็มีจุดเด่นที่การวิจารณ์ประเด็นชนชั้นทางสังคมเช่นกัน

Snowpiercer (2013) เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปีคริสตศักราช 2031 หลังจากความพยายามในการหยุดยั้งสถานการณ์โลกร้อนที่เข้าขั้นวิกฤต เมื่อปี 2014 ประสบความล้มเหลว ทำให้โลกเข้าสู่ยุคน้ำเแข็งอีกครั้งและทำลายสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก เหลือแต่เพียงรถไฟหัวจักรที่ชื่อว่า "สโนว์เพียซเซอร์" ที่ออกเดินทางรอบโลกอย่างไร้จุดหมาย โดยใช้พลังงาน "เครื่องจักรนิรันดร์" เป็นตัวขับเคลื่อนฝ่าสภาพอากาศอันหนาวเย็น อย่างไรก็ตามภายในขบวนรถไฟก็เกิดเป็นสังคมใหม่ ที่มีการแบ่งแยกชนชั้น ริดรอนสิทธิความเป็นมนุษย์ และการปฏิวัติจากชนชั้นล่างกำลังจะอุบัติขึ้น
นำแสดงโดย Chris Evans รับบทเป็น Curtis Everett หัวหน้ากลุ่มปฏิวัติ , Ed Harris รับบท Wilford วิศกรผู้สร้างรถไฟ "สโนว์เพียซเซอร์" , Tilda Swinton รับบท Mason ลิ่วล้อของ Wilford ทำหน้าที่บริหารจัดการความเรียบร้อยภายในรถไฟขบวนนี้
สมทบด้วย Song Kang-ho (จาก The Host 2006) รับบท Namgoong Min-soo ผู้ออกแบบกลไกประตูของขบวนรถไฟ และ Ko Ah-Sung (จาก The Host 2006) รับบท Yo-na ลูกสาวตัวยุ่งของ Namgoong Min-soo


รีวิวหนัง(ดูฟรี) ละติจูดที่ 6 (2015) - หนังรักดราม่า ที่มีเรื่องราวชีวิตสามชายแดนใต้เป็นแบ็คกราวด์

รีวิวหนัง The VVitch เดอะ วิทช์- หนังที่เล่าเรื่องราวของแม่มดสุดเรียล พร้อมบรรยากาศชวนสยองทั้งเรื่อง

รีวิวหนัง MA แม่_ร้าย (2019) - เมื่อแม่ไม่แสนดีอย่างที่คิด หนังสยองขวัญสุด Weird ลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ

สำหรับ Snowpiercer ยึดด่วนวันสิ้นโลก (2013) เป็นหนังที่หยิบประเด็นความเหลื่อมล้ำทางสังคมและชนชั้นมาบอกเล่าได้อย่างลึกซึ้ง ขึ้นชื่อว่าผู้กำกับ บงจุนโฮ แล้ว มั่นใจได้ว่าการเล่าหนังของเขามีความใส่ใจในรายละเอียด แฝงไปด้วยข้อคิด และสื่อถึงบริบทของหนังอย่างชัดเจน เช่น การแบ่งคลาสของรถไฟที่มีตั้งแต่ เฟิร์สคลาส ของเหล่าผู้ลากมากดี ไปจนถึง ขึ้นฟรี ที่มีชีวิตแบบอัตคัดอยู่ท้ายขบวน ย่อมเกิดความไม่เท่าเทียม เปรียบเหมือนสังคมโลกของเราที่มีการแบ่งชนชั้นตามฐานะบารมี เหล่าชนชั้นสูงรวยอำนาจ ใช้ชีวิตอู้ฟู่ ตัดมาที่ชนชั้นล่าง สถานะแทบจะไร้สิทธิความเป็นมนุษย์ ก่อเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งกลายมาเป็น Conflict ของเรื่อง และเป็นที่มาของการเปิดฉากต่อสู้เพื่อปฎิวัติรถไฟแห่งชนชั้นขบวนนี้

ความรู้สึกหลังดู ก็จะมีทั้งชอบและไม่ชอบ แน่นอนว่าความชอบย่อมมีมากกว่า ด้วยการเล่าเรื่องที่มีชั้นเชิง ซีนอารมณ์ เพลงประกอบ ที่ใส่เข้ามาแบบถูกจังหวะ ไม่เน้นประโคมบิ้วท์คนดู รวมถึงความลุ้นระทึกต่างๆ ในเรื่องที่ดึงความสนใจได้อยู่หมัด ทั้งในซีนต่อสู้เลือดสาด ฉากตะลุมบอนระหว่างทหารกับกลุ่มท้ายขบวน ที่บอกเลยซีนนี้ลุ้นจนนั่งไม่ติด และการเปิดเผยสิ่งที่อยู่ในโบกี้ต่างๆ ของรถไฟ ทั้งในแบบที่โคตรอลังการ หรือในแบบที่ดูฟุ่มเฟือยไร้สาระ และในแบบที่คาดไม่ถึง ซึ่งต้องชื่นชมคนที่คิดอะไรแบบนี้มากๆ เพราะการจะทำหนังแนวนิยายวิทยาศาสตร์ล้ำๆ เรื่องหนึ่ง จะต้องมี reference เพื่อสร้างความเป็นไปได้ แล้วเล่าออกมาให้น่าคล้อยตามได้ด้วยนี่เจ๋งมากๆ


และ MVP ของเรื่องนี้ ขอยกให้ เจ๊เมสัน รับบทโดย  Tilda Swinton  การแสดงสุดแบบสุดจริงๆ สุดทุกทาง แทบจะลืมไปเลย ว่าเธอคนนี้คือ "แองเชี่ยนวัน" จอมเวทย์มหากาฬ จากมาร์เวล สตูดิโอส์... นางตีบทแตกกระจุยได้ทุกคาแรคเตอร์จริงๆ

แต่อย่างไรแล้ว หนังก็มีแผลให้เห็นอยู่บ้าง ทั้ง CG บางช่วงที่มีลอยๆ โดดๆ ทั้งปูมหลังชีวิตของตัวละครที่ยังเล่าไม่ชัดเจน หรือเล่าน้อยไปหน่อย ทำให้บางซีนก็ไม่อินและไม่ประทับใจเท่าไหร่


โดยรวมแล้ว Snowpiercer (2013) เป็นหนังที่จำลองมนุษยชาติกลุ่มสุดท้าย ที่ไม่ว่าโลกจะแตก ผู้คนจะตาย การแบ่งชนชั้นทางสังคม ก็ยังมีอยู่กับมนุษย์ไปทุกที่ บางคนอาจคิดว่า คนที่ไม่ได้จ่ายก็ไม่มีสิทธิเรียกร้อง แต่หากมองในแง่ความเป็นมนุษย์ คนทุกคนควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ตัวหนังทั้งจิกกัดและเสียดสีสังคมในโลกทุนนิยมอยู่ไม่น้อย ถือเป็นประเด็นสุดคลาสสิคที่บอกเล่าสภาพสังคมปัจจุบันได้อย่างสมจริงที่สุด  คะแนน 8.5/10

รีวิวหนัง(ดูฟรี) มือปราบสัมภเวสี THE LOST CASE (2017) - จากเคสหลอนในรายการ สู่หนังผีไทยแนวใหม่!

รีวิวหนัง The Dark Tower หอคอยทมิฬ - หนังแอ็คชั่นแฟนตาซีสุดดูเพลิน จากนิยายของ สตีเฟน คิง

รีวิวหนัง Shutter Island เกาะนรกซ่อนทมิฬ (2010) - หากได้เข้าไปแล้ว ไม่มีวันที่จะได้กลับออกมาอีก

อ่านรีวิวหนังเรื่องอื่นๆ

BUGABOO MOVIE / เครดิตภาพจาก IMDB และคลิปจาก M Pictures