7 ที่เที่ยวสังขละบุรี กาญจนบุรี เที่ยวหน้าฝน ชมธรรมชาติ สัมผัสวิถีชาวมอญ
เที่ยวสังขละบุรี กับ 7 จุดเช็กอินเมืองสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เที่ยวหน้าฝน ชมธรรมชาติ สัมผัสวิถีชาวมอญ โดยอำเภอสังขละบุรี ระยะทางจากกรุงเทพ จะใช้เวลาเดินทางกว่า 6 ชั่วโมง แนะนำวางแผนเที่ยวกันอย่างน้อย ๆ ก็ 2 วัน 1 คืนนะคะ
ดู ที่เที่ยวกาญจนบุรี ที่อื่น ๆ คลิก
>> 25 ที่เที่ยวกาญจนบุรี สัมผัสธรรมชาติ ชมแลนด์มาร์คแต่ละโซน
>> 9 คาเฟ่กาญจนบุรี วิวดี ถ่ายรูปสวย โลเคชันปัง 2567
>> 8 คาเฟ่สังขละบุรี ร้านกาแฟบรรยากาศดี นั่งชิลชมวิวสะพานมอญ
1. สะพานมอญ • สังขละบุรี
เที่ยวสังขละบุรี ชมธรรมชาติ เสน่ห์เมืองมอญ
เที่ยวสังขละบุรี ชมธรรมชาติ เสน่ห์เมืองมอญ
สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสะพานไม้อูเบ็งในประเทศพม่า ใช้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียสร้าง ขึ้นโดยดำริของหลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ระหว่าง พ.ศ.2529 - พ.ศ.2530 เพื่อให้คนไทย กระเหรี่ยงและมอญได้สัญจรไปมาหาสู่กันระหว่างสองฝั่งแม่น้ำ
ในอดีตสะพานมอญเป็นสะพานไม้ที่มีลักษณะคดเคี้ยว มีความยาวกว่า 845 เมตร แต่ถูกสร้างและปรับปรุงมามากว่า 5 ครั้ง จนมาเป็นสะพานไม้ที่ยาวตรงขนาด 445 เมตรในปัจจุบัน
นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยี่ยมชมสะพานเพื่อชมแสงสีทองของพระอาทิตย์ยามเช้า พร้อมแดดปกคลุมจาง ๆ รวมถึงวิถีชีวิตของชาวไทยและชาวมอญ แนะนำมาช่วงเช้าหรือตอนเย็น เพราะอากาศไม่ร้อน และจะได้ภาพสวย ๆ ที่สะพานมอญกลับไปแน่นอน
ที่อยู่ : ซ.สะพานไม้ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เปิดเข้าชม : เข้าชมได้ตลอดทั้งวัน
พิกัด : Google Map
2. หมู่บ้านมอญ • สังขละบุรี
เที่ยวสังขละบุรี ชมธรรมชาติ เสน่ห์เมืองมอญ
เที่ยวสังขละบุรี ชมธรรมชาติ เสน่ห์เมืองมอญ
จากสะพานมอญ เข้ามาในส่วนของ หมู่บ้านมอญ บริเวณนี้จะได้พบกับบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของชาวมอญ ที่มีอาชีพหลัก ๆ คือ การปลูกพืชผัก และทำประมงชายฝั่ง ที่นี่เราจะได้ชมวิถีชีวิตแบบคนมอญ ทั้งภาษา การแต่งกาย วัด อาหารการกิน และอีกมากมาย
อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เมื่อเดินเข้ามาในหมู่บ้านมอญ นั่นคือ การได้เห็นชาวบ้าน เทินสิ่งของไว้บนศีรษะแทนการถือ นั่นก็เพื่อให้สามารถถือของได้เยอะมากขึ้น เป็นเสน่ห์ของวิถีชีวิตเมืองมอญแห่งนี้
ภายในหมู่บ้านมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เยี่ยมชมมากมาย ทั้งการล่องเรือชมวัดจมน้ำ วัดวังก์วิเวการาม (ใหม่) ชมเจดีย์พุทธคยาจำลอง รวมถึงที่พักโฮมสเตย์ ร้านอาหารและคาเฟ่ ที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่แวะเข้ามาอีกด้วย
กิจกรรมในช่วงเช้าของที่นี่ นักท่องเที่ยวจะนิยมมาใส่บาตรกันประมาณ 6 โมงครึ่ง - 7 โมง จากนั้นช่วงสาย ๆ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเยี่ยมชมหมู่บ้าน แวะตลาด หรือล่องเรือเที่ยวได้ตามไลฟ์สไตล์
ที่อยู่ : ซ.สะพานไม้ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เปิดเข้าชม : เข้าชมได้ตลอดทั้งวัน
พิกัด : Google Map
3. วัดใต้น้ำ • สังขละบุรี
เที่ยวสังขละบุรี ชมธรรมชาติ เสน่ห์เมืองมอญ
เที่ยวสังขละบุรี ชมธรรมชาติ เสน่ห์เมืองมอญ
วัดใต้น้ำ หรือ วัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการาม (เดิม) ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวสังขละบุรี กับการนั่งเรือไปเที่ยวชม วัดใต้น้ำ ซึ่งเป็นวัดเก่าที่ถูกปล่อยให้จมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen ของจังหวัดกาญจนบุรี
โดย วัดใต้น้ำ หรือ วัดวังก์วิเวการาม (เดิม) เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะ และชาวบ้านอพยพซึ่งเป็นชาวกระเหรี่ยงและชาวมอญ ได้ร่วมกันสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2496
ต่อมาในปี พ.ศ. 2527 ได้มีโครงการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ เขื่อนเขาแหลม เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงบนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ทั้งหมู่บ้านชาวมอญ และวัดวังก์วิเวการามเดิม ทางการจึงได้อพยพชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ออกจากบริเวณที่น้ำท่วม และย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขาด้านฝั่งตะวันตกของลำน้ำแควน้อยในปัจจุบัน และใช้ชื่อ วัดวังก์วิเวการาม (ใหม่)
ในช่วงน้ำมาก น้ำจะท่วมสูงจนเห็นเพียงยอดของโบสถ์ หรือจะได้เห็นผนังโบสถ์บางส่วนโผล่พ้นน้ำขึ้นมาให้ชม ซึ่งนักท่องเที่ยวจะทำได้เพียงล่องเรือไปในบริเวณใกล้ ๆ กับโบสถ์ได้เท่านั้น
แต่ในช่วงน้ำลด ประมาณเดือนมีนาคม - พฤษภาคม น้ำในแม่น้ำจะลดลงจนนักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปชมโบสถ์ถึงด้านในได้ โดยสิ่งที่เหลือไว้ให้เห็น จะมีตัวโบสถ์ที่เหลือเพียงผนัง และไม่มีส่วนของหลังคาโบสถ์ โดยตามผนังโบสถ์ยังมีลวดลายศิลปะแบบมอญหลงเหลืออยู่
บริเวณด้านนอกโบสถ์จะเห็นเศียรพระหักวางไว้ ซึ่งจะมีเด็ก ๆ ชาวมอญคอยเดินขายดอกไม้ และคอยเป็นมัคคุเทศน์น้อยให้นักท่องเที่ยวอีกด้วย
ที่อยู่ : ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 06.00 - 18.00 น.
พิกัด : Google Map
4. วัดวังก์วิเวการาม • สังขละบุรี
เที่ยวสังขละบุรี ชมธรรมชาติ เสน่ห์เมืองมอญ
เที่ยวสังขละบุรี ชมธรรมชาติ เสน่ห์เมืองมอญ
วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ โดยหลวงพ่ออุตตมะ เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเชื้อสายมอญที่ชาวบ้านเคารพนับถือ ซึ่งวัดแห่งนี้สร้างโดย หลวงพ่ออุตตมะ ร่วมกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ชาวกะเหรี่ยง และชาวมอญร่วมกันสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2496
ต่อมาในปี 2527 มีการสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ ทำให้ต้องย้ายวัดขึ้นไปตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สาย คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกัน
สถานที่สำคัญภายในบริเวณวัดวังก์วิเวการาม ได้แก่ ศาลาประดิษฐานสังขารหลวงพ่ออุตตมะ วิหารพระพุทธรูปหินอ่อน และ เจดีย์พุทธคยาจำลอง เป็นที่นับถือสักการะของชาวบ้านในพื้นที่
ที่อยู่ : ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 07.30 - 18.30 น.
ที่จอดรถ : มี
Facebook : วัดวังก์วิเวการาม บ้านวังกะ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
พิกัด : Google Map
5. ด่านเจดีย์สามองค์ • สังขละบุรี
เที่ยวสังขละบุรี ชมธรรมชาติ เสน่ห์เมืองมอญ
เที่ยวสังขละบุรี ชมธรรมชาติ เสน่ห์เมืองมอญ
ด่านเจดีย์สามองค์ เป็นเขตสิ้นสุดชายแดนไทยด้านทิศตะวันตก ในอดีตเป็นช่องทางเดินทัพของไทยและพม่า นักท่องเที่ยวสามารถข้ามชายแดนเข้าไปชมตลาดพญาตองซูในเขตพม่า โดยติดต่อทำเอกสาร/หลักฐานได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสังขละบุรี
โดยในช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ ด่านชายแดนแห่งนี้จะมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่เพียงคลาคล่ำด้วยนักท่องเที่ยวมากมายที่เดินทางเข้ามาจับจ่ายซื้อหาสินค้าแปลกตาเท่านั้น หากยังคึกคักด้วยบรรดา พ่อค้าแม่ขายทั้งจากฝั่งไทยและเมียนมานำสินค้าเข้ามาจำหน่ายไม่แพ้กัน
สำหรับ พระเจดีย์สามองค์ เดิมเป็นเพียงก้อนหินวางซ้อน ๆ กันสามกอง จึงเรียกที่แห่งนี้ว่า หินสามกอง เป็นที่สักการะของคนไทยโดยทั่วไป ก่อนที่จะเดินทางออกเขตแดนไทยเข้าสู่เขตแดนพม่า
ต่อมาในปี พ.ศ. 2432 ได้มีการก่อสร้างองค์เจดีย์ขึ้นบนหินสามกอง เจดีย์แต่ละองค์สูงประมาณ 6 เมตร ตั้งห่างกันประมาณ 5-6 เมตร ซึ่งในปี พ.ศ.2546 กรมศิลปกรได้ดำเนินการขุดแต่ง และพบฐานเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมที่ก่ออิฐอยู่ด้านใต้ซึ่งสันนิษฐานว่ามีการสร้างเจดีย์องค์เดิมมาแล้วในสมัยกรุงศรีอยุธยา จึงได้ประกาศขึ้นทะเบียนพระเจดีย์สามองค์เป็นโบราณสถานของชาติในปี พ.ศ.2498
ที่อยู่ : ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เปิดเข้าชม : 06.00 - 18.00 น.
พิกัด : Google Map
6. จุดชมวิวป้อมปี่ • สังขละบุรี
เที่ยวสังขละบุรี ชมธรรมชาติ เสน่ห์เมืองมอญ
เที่ยวสังขละบุรี ชมธรรมชาติ เสน่ห์เมืองมอญ
จุดชมวิวป้อมปี่ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติสวย ๆ ที่ล้อมรอบเขื่อนวชิราลงกรณ์ ที่นี่ยังเป็นแหล่งดูนกที่อุดมสมบูรณ์มาก มีนกนานาชนิด ทั้งนกเหงือก นกกระเต็นอกขาว เขียวก้านตองปีกฟ้า และอีกมากมาย
คำว่า ป้อมปี่ มาจากภาษากระเหรี่ยงว่า “เปอปี่” หมายถึง ต้นอ้อ ต่อมาออกเสียงเพี้ยนมาเป็นป้อมปี่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะแก่การพักผ่อน ชมวิวธรรมชาติ ภูเขาที่โอบล้อมอ่างเก็บน้ำ และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในภาคตะวันตก นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์พักผ่อนกันที่บริเวณนี้ เพื่อสัมผัสบรรยากาศดี ๆ ที่ให้ความเงียบสงบ
อัตราค่าเข้าชม
ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท / เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท / เด็ก 100 บาท
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086 131 3443
ที่อยู่ : ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 08.30 - 16.30 น.
ที่จอดรถ : มี
โทร : 086 131 3443
พิกัด : Google Map
7. น้ำตกเกริงกระเวีย • สังขละบุรี
เที่ยวสังขละบุรี ชมธรรมชาติ เสน่ห์เมืองมอญ
เที่ยวสังขละบุรี ชมธรรมชาติ เสน่ห์เมืองมอญ
น้ำตกเกริงกระเวีย เป็นน้ำตกขนาดกลาง สูงประมาณ 5 เมตร ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีต้นกำเนิดจากห้วยเกริงกระเวีย เป็นน้ำตกที่มีน้ำตลอดทั้งปี สามารถลงเล่นน้ำได้ทุกฤดู แต่จะมีน้ำมากในช่วงปลายฤดูฝน อีกทั้งบริเวณรอบ ๆ น้ำตก ยังถูกโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ร่มรื่นอุดมสมบูรณ์
จุดเด่นของน้ำตกเกริงกระเวีย คือ การที่มีลำน้ำหลายสาย ไหลลดหลั่นลงมา และแตกแขนงราวกับใยแมงมุม บางช่วงเป็นแอ่งน้ำที่สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย
บริเวณน้ำตกมีร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารอยู่หลายร้าน น้ำตกเกริงกระเวียจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และพักผ่อนหย่อนใจของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง รวมถึงนักท่องเที่ยวที่สัญจรผ่านไปมาบนถนนเส้นนี้ที่มุ่งหน้าสู่อำเภอสังขละบุรีอีกด้วย
ที่อยู่ : ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 08.00 - 16.30 น.
ที่จอดรถ : มี
พิกัด : Google Map
BUGABOO LIFESTYLE